เช็ดหน้าย้อนรูขุมขน คือทางไหน วิธีทาครีม โทนเนอร์ คลีนซิ่งแบบถูกวิธี

“การเช็ดหน้าที่ถูกต้องนั้น จะช่วยป้องกันปัญหารูขุมขนกว้างได้ดี และการเลือกใช้สำรี ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า ก็สำคัญเช่นกันเพราะจะทำให้ไม่เป็นขุย และไม่อุดตันรูขุมขนนะคะ”

การทำความสะอาดใบหน้า มีแค่ 2 ข้อที่สำคัญ คือ รู้สภาพผิวตัว และ เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าให้ตรงกับผิวของเราเอง ควรต้องให้เวลากับการล้างหน้าสักหน่อยเพราะถือได้ว่า นั้นคือขั้นพื้นฐานของการดูแลนะคะ ล้างหน้าให้สะอาดและถูกวิธี ผลที่ได้คือ ผิวสวยๆ ไม่มีสิวแล้ว ระยาวด้วยนะคะ

วิธีเช็ดหน้าที่ถูกต้อง

การเช็ดด้วยสำลี เพื่อทำความสะอาดหน้า

  • ควรเช็ดจากล่างขึ้นบน จะช่วยเปิดรูขุมขน เพื่อทำความสะอาดได้อย่างหมดจด

การเช็ดด้วยสำลี เพื่อเช็ดบำรุงหน้า

  • เช่น มาร์คหน้าหรือเซรั่มบำรุง ควรเช็ดหน้าตามแนวขน เพราะการเช็ดโดยไม่มีทิศทาง จะทำให้ครีมอุดตันในรูขุมขนได้ สามารถสังเกตแนวขนได้ โดยดูทิศทางการลู่ของเส้นขน

เช็ดหน้าย้อนรูขุมขนดีไหม?

ตอบ: การเช็ดหน้าย้อนรูขุมขน เน้นเป็นวิธีที่ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก เพื่อเอาสิ่งสกปรกที่ยังตกค้างออก แต่แอดมินแนะนำให้ ตามโพรงขนปิดอีกทีค่ะ ส่วนที่คอกับคางเช็ดย้อนขึ้นนะคะ

Cleansing คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอาง

Cleansing คือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอาง สำหรับสาวๆ ที่แต่ง ลงรองพื้น บีบีครีม ปัดแก้ม ทาลิปสติก หรือใช้เช็ค สิ่งสกปรก ความมัน ก็ได้

Cleansing คลีนซิ่ง

Cleansing คลีนซิ่ง คืออะไร?

คลีนซิ่ง คือ ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง หรือที่เรียกอีกอย่างว่า รีมูฟเวอร์ ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อน้ำ น้ำนม ออยล์ หรือชนิดอื่นๆ คลีนซิ่งถือเป็นสิ่งจำเป็น แม้ในวันที่จะแต่งหน้าหรือไม่ก็ตาม เพราะการล้างหน้าธรรมดา ทำความสะอาดได้เพียงคราบเหงื่อไคล และฝุ่นเท่านั้น แต่ไม่สามารถทำความสะอาดกันแดด เมคอัพ ฝุ่นควันจากท่อไอเสียรถ หรือมลภาวะที่จับตัวกันอยู่บนผิวได้ จึงทำให้เกิดการอุดตันบนใบหน้าได้

วิธีใช้คลีนซิ่งออยล์

  1. ใช้คลีนซิ่งออยล์หรือคลีนซิ่งบาล์มนวดไปบนใบหน้าและมือที่แห้ง นวดจนคราบเครื่องสำอางละลายจนหมด **ใช้สำลีช่วยเช็ดเมคอัพรอบดวงตา จะทำให้ไม่มีคราบฝ้าตอนล้างน้ำล่ะ
  2. ใช้น้ำพรมบนผิวหน้าเล็กน้อยจนออยล์/บาล์มละลายเป็นน้ำนม ขั้นตอนนี้แหละที่สำคัญ! เพราะเป็นช่วงที่สิ่งสกปรกจะละลายออกมาจากผิว เน้นนวดช่วงจมูกเป็นวงกลมจะช่วยลดสิวเสี้ยนได้ดี
  3. ล้างให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า ล้างจนไม่เห็นคราบน้ำนมก็เรียบร้อยค่ะ

วิธีใช้คลีนซิ่งน้ำ

  1. ไม่แนะนำ: ให้ป้ายเนื้อโฟมบนหน้า
  2. ให้ถูเนื้อโฟมบนปลายนิ้วจนละลายกลายเป็นฟองให้หมดก่อน เนื้อเม็ดโฟมล้างหน้าที่ไม่ละลายน้ำเป็นตัวการทำให้ผิวอุดตันได้
  3. ล้างหน้าตามแนวรูขุมขน ช่วยลดสิว เพราะช่วยให้ฟองโฟมเข้าไปทำความสะอาดในรูขุมขนได้ดี ลดการเกิดสิ่งสกปรกอุดตัน
  4. ใช้วิธีถูปลายนิ้วจากกลางใบหน้า ออกด้านข้างตามลูกศร
  5. ล้างหน้าด้วยนิ้วนาง ช่วยลดแรงกดจากนิ้วที่อาจจะแรงเกินไปจนทำให้ผิวระคายเคือง นี่เป็นเคล็ดลับหน้าใสของสาว ๆ เกาหลีด้วยนะคะ แอดมินแอบมาบอก

Cleansing มี 8 ชนิด คือ

  1. Water (น้ำ) : คลีนซิ่งเนื้อน้ำ ที่เห็นสีใส คล้ายน้ำเปล่าแต่มีความเข้มข้นกว่า ใช้คู่กับสำลี แล้วเช็ดจนกว่าสำลีจะสะอาด
  2. Gel (เจล) : เจลสีขุ่นหรือใส ที่ไม่มีฟอง บางแบรนด์เมื่อโดนน้ำเปลี่ยนเป็นน้ำนม
  3. Oil (ออย) : เนื้อน้ำมันใสๆ มีสีต่างกันไปแล้วแต่แบรนด์ เช่น เหลือง หรือ ไม่มีสี เมื่อโดนน้ำจะเปลี่ยนเป็นน้ำนม
  4. Milk (นม) : เนื้อเหมือนโลชั่นเหลว ใช้วิธีการนวดและเช็ดตามด้วยสำลีหมาดๆ
  5. Cream (ครีม) : เนื้อครีมเข้มข้น ที่ทำความสะอาดได้ดี ใช้วิธีนวดและล้างออกด้วยน้ำเปล่า ส่วนใหญ่แพคเกจจะเป็นกระปุก
  6. Wipe (กระดาษทิชชู่) : เป็นซองเหมือนทิชชู่เปียก แต่มีคลีนซิ่งผสมอยู่ เป็นชนิดที่ใช้สะดวกที่สุด
  7. Remover : คลีนซิ่งที่แยกชั้นระหว่างน้ำกับน้ำมัน ใช้สำหรับเช็ดตาและปาก เครื่องสำอางกันน้ำ
  8. Balm บาล์ม : เนื้อแวกซ์ ที่ช่วยละลายเครื่องสำอาง โดยใช้การนวด และเปลี่ยนเป็นน้ำนมเมื่อโดนน้ำ
Cleanser คลีนเซอร์

Cleanser คลีนเซอร์ คืออะไร?

คลีนเซอร์ คือ ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ต้องใช้น้ำล้างออก หรือเรียกว่า โฟมล้างหน้า นั่นเอง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำหน้าที่ในการทำความสะอาดใบหน้า โดยจะมีสูตรที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่ที่เห็นกันเป็นประจำก็จะแบ่งเป็น สูตรหน้ามัน หน้าแห้ง และสำหรับผู้ที่เป็นสิว หรือมีผิวแพ้ง่าย ซึ่งแน่นอนว่าคุณสมบัติก็ย่อมไม่เหมือนกัน สูตรหน้ามันจะช่วยลดความมันส่วนเกิน กระชับรูขุมขน สูตรหน้าแห้งจะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นให้ผิว ส่วนสูตรสิวก็จะช่วยลดการเกิดสิว ลดรอยดำรอยแดง เป็นต้น

วิธีใช้ คลีนเซอร์

  1. เปิดรูขุมขนด้วยน้ำอุ่น
  2. ก่อนที่เราจะทำการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์เราก็มาทำการเปิดรูขุมขนกันก่อน เพื่อให้การทำความสะอาดรูขุมขนเป็นไปได้อย่างสะอาด หมดจด และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการเปิดรูขุมขนสามารถทำได้โดยการใช้น้ำอุ่นในการล้างหน้า หรือ อาจจะใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นแล้ววางไว้บนผิวหน้าประมาณ 2 นาที น้ำอุ่นจะช่วยให้รูขุมขนค่อย ๆ เปิด สามารถทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. เมื่อเราเช็ดคราบเครื่องสำอาง และสิ่งสกปรกที่ไม่สามารถล้างออกได้ด้วยคลีนเซอร์ได้แล้ว
  4. ขั้นตอนต่อมาก็เป็นการล้างหน้าเพื่อกำจัดแบคทีเรีย ความมันส่วนเกิน และทำความสะอาดรูขุมขนเพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันและไม่ให้เกิดสิว
  5. ทำให้ผิวหน้าเปียกเรียบร้อยแล้ว
  6. ก็นำคลีนเซอร์ที่เหมาะกับผิวของเรามานวดบนผิวหน้า
  7. โดยการนวดให้ใช้วิธีการนวดเป็นวงกลม วนๆ จนทั่วใบหน้าและลำคอด้วยนิ้วกลางและนิ้วนาง เพราะนิ้วทั้งสองนี้มีแรงกดที่น้อยกว่านิ้วอื่น จึงทำให้การล้างหน้าเป็นไปอย่างนุ่มนวล ไม่รุนแรงต่อผิวหน้า ซึ่งหากเราล้างหน้าด้วยความรุนแรงบ่อย ๆ ก็อาจจะทำให้ผิวหน้าของเราเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้
  8. เมื่อทำความสะอาดผิวหน้าด้วยคลีนเซอร์เสร็จแล้ว
  9. ก็ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพื่อล้างคลีนเซอร์ออกจากผิว
  10. จากนั้นให้ใช้น้ำเย็นล้างหน้าปิดท้าย เพื่อเป็นการปิดรูขุมขน น้ำเย็นจะทำให้รูขุมขนค่อยๆ ปิดลง การปิดรูขุมขนจะทำให้รูขุมขนสะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกเข้าไปในรูขุมขนซ้ำอีกแบบง่ายๆ และไม่ทำให้เกิดการอุดตันจนทำให้เกิดสิว

Cleanser มี 5 ชนิด คือ

  1. Soap (สบู่ก้อน) : สบู่ก้อนที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกับสบู่ที่ใช้กับตัว แต่สบู่สำหรับผิวหน้านั้น ต่างกันที่ค่ากรด-ด่าง ส่วนใหญ่จะใช้กับผิวบอบบาง
  2. Gel (เจล) :เจลสีใสหรือขุ่น เวลาถูบนหน้าจะไม่มีฟอง ซึ่งบางแบรนด์อาจมีเม็ดสครับผสมอยู่ด้วย
  3. Powder (ผง) : เป็นผงสีขาว ที่นำไปเทใส่ถ้วยและใช้หน้าจุ่มลงไปตามเวลาที่กำหนดและล้างออกด้วยน้ำเปล่า
  4. Cream (ครีม) : เนื้อครีมสีขาว เข้มข้น มีฟอง ส่วนใหญ่จะใช้กับผิวมัน
  5. Foaming (มูส หรือ หัวปั้มฟอง) : โฟมล้างหน้าแบบน้ำที่อยู่ในขวดปั้ม เมื่อปั้มออกมาจะเป็นเนื้อมูส ฟองหนานุ่ม

Toner โทนเนอร์ คืออะไร?

โทนเนอร์ คือ ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนใบหน้า ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลของผิว ช่วยลดความมัน และกระชับรูขุมขน ในคนที่มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง หรือ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ในคนที่มีผิวแห้ง หลังการล้างหน้า โทนเนอร์จะช่วยให้ครีมบำรุงทำงานดีขึ้น โดยครีมจะซึมซาบลงสู่ผิวง่ายและลึกมากขึ้น หากใช้ครีมบำรุงหลังโทนเนอร์ภายใน หรือบางยี่ห้อ อาจมีการเพิ่มประโยชน์ในแง่อื่นๆ เช่น ความขาวกระจ่างใส และลดเลือนริ้วรอย

โทนเนอร์คืออะไร ทำไมต้องใช้?

โทนเนอร์ คือ สิ่งที่จะช่วยทำความสะอาดผิวและเปิดรูขุมขน ให้ผิวหน้าสะอาดล้ำลึกกว่าการใช้แค่คลีนซิ่งอย่างเดียว โทนเนอร์ยังสามารถช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงได้ดีกว่าเดิม เพราะรูขุมขนที่ได้รับการทำความสะอาดหมดจด จะช่วยให้ผิวเปิดรับการบำรุงได้ล้ำลึกกว่าเดิมนั้นเองค่ะ

คุณสมบัติโทนเนอร์ คือ ช่วยทำความสะอาดผิว พร้อมปรับสมดุลให้ใบหน้า เติมความชุ่มชื้น ลดความมัน กระชับรูขุมขน แล้วยังมีหลากหลายสูตรให้ได้เลือก แต่หลัก ๆ แล้วโทนเนอร์จะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ โทนเนอร์ที่ทำความสะอาดผิวหน้า และ โทนเนอร์ที่ใช้บำรุงผิว

วิธีใช้โทนเนอร์เช็คหน้าไม่ให้สิวขึ้น และหน้าไม่เหี่ยว

  1. เทผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางหรือโทนเนอร์ ลงบนแผ่นสำลี
  2. เช็ดใบหน้าด้วยสำลีไปตามทิศทางของลูกศรตามรูปข้างบน โดยไล่มาตั้งแต่หน้าผาก เช็ดออกมาทางด้านข้างของศรีษะทั้ง 2 ข้าง
  3. จากนั้นก็เช็ดลงมาที่จมูกตั้งแต่บริเวณหัวตา มาที่ดั้ง ปลายขมูก และบริเวณด้านบนของปาก
  4. จากนั้นเช็ดบริเวณแก้ม โหนกแก้ม โดยลูบออกทางด้านข้างตามลูกศร ไล่ให้ทั่วบริเวณ โดยถูเป็นทิศทางเดียวกันตลอด
  5. สุดท้ายให้ถูบริเวณคางเป็นแนวดิ่งลง

เพิ่มเติม: การเช็ดหน้าตามแนวขนที่ดีนั้น ควรเช็ดอย่างเบามือแระประณีสุด อย่าถูหน้าแรงเพราะจะทำให้วิธีที่เรากำลังทำอยู่นี้ศูนย์เปล่า อาจเกิดการระคายเคืองหรือริ้วรอยตามมาได้ และที่สำคัญให้ถูหน้าตามแนวลูกศรในรูป ห้ามถูสวนทางขึ้นมาเด็ดขาด หากทำแบบนี้อย่างสม่ำเสมอ สิวอุดตันจะลดน้อยลง ดูเรียบเนียนขึ้น ถ้าไม่เชื่อลองทำตามที่แอดมินบอกได้นะคะ

วิธีการใช้โทนเนอร์สำหรับมือใหม่

  1. การใช้โทนเนอร์ ต้องเช็ดหลังจากหลังหน้าเสร็จใหม่ ๆ ตอน เช้า-เย็น ก่อนบำรุงผิว
  2. เลือกใช้สำลีแบบแผ่น เพราะจะทำความสะอาดใบหน้าได้ง่าย และเข้าถึงผิวได้มากกว่า แต่สำหรับสาวผิวแพ้ง่าย ก็ต้องเลือกสำลีที่อ่อนโยนกับผิวหรือใช้มือในการกดโทนเนอร์ให้เข้ากับผิว
  3. หยดโทนเนอร์ในปริมาณเท่าเหรียญสิบบาท จับสำลีให้ถนัดมือแล้วค่อย ๆ เช็ดผิวหน้าอย่างเบามือ จะเช็ดหน้าที่ละครึ่งหน้าก็ได้ โดยเน้นในส่วนที่ทำสะอาดหน้าไม่ทั่วถึงอย่าง บริเวณรอบดวงตา จมูก
  4. หลังจากที่ใช้โทนเนอร์แล้ว ไม่ต้องล้างออกนะคะ สามารถทาครีมบำรุงผิวต่อได้เลยตามที่ต้องการนะคะ