ยาคุมกำเนิด แอปคาร์ นอร์แพก (ABCA NORPAK)

ยาคุมกำเนิด แอปคาร์ นอร์แพก (ABCA NORPAK) มีกี่เม็ด วิธีกิน ข้อดี ข้อเสีย คำเตือน

ยาคุมกำเนิด “แอปคาร์ นอร์แพก” (ABCA NORPAK) เป็นยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency Contraceptive Pill) ที่ใช้สำหรับป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือเกิดความผิดพลาดจากการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น ถุงยางอนามัยรั่วหรือแตก, การลืมรับประทานยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนติดต่อกันหลายวัน บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับยาแอปคาร์ นอร์แพกไว้อย่างละเอียด เพื่อความเข้าใจและการใช้งานที่ถูกต้องและปลอดภัย

ลักษณะและจำนวนเม็ดยาใน 1 แผง

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแอปคาร์ นอร์แพก โดยทั่วไปที่พบในท้องตลาด จะมีลักษณะเป็นแผงบรรจุ 2 รูปแบบ ซึ่งประกอบด้วยตัวยาสำคัญคือ เลโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) แต่มีความแตกต่างกันที่ปริมาณยาและจำนวนเม็ด ดังนี้

  • แบบ 1 เม็ด
    • ใน 1 แผง จะบรรจุยา 1 เม็ด
    • แต่ละเม็ดประกอบด้วยตัวยา Levonorgestrel ปริมาณ 1.5 มิลลิกรัม
  • แบบ 2 เม็ด
    • ใน 1 แผง จะบรรจุยา 2 เม็ด
    • แต่ละเม็ดประกอบด้วยตัวยา Levonorgestrel ปริมาณ 0.75 มิลลิกรัม

สิ่งสำคัญที่ต้องทราบ ยาคุมกำเนิดแอปคาร์ นอร์แพก ไม่ใช่ยาคุมกำเนิดชนิดที่ใช้รับประทานเป็นประจำทุกวัน (Daily Contraceptive Pill) แต่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

วิธีกินยาแอปคาร์ นอร์แพก

ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการรับประทานยาหลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งรับประทานเร็วเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ก็จะยิ่งสูงขึ้น

  • สำหรับยาแผงละ 1 เม็ด (Levonorgestrel 1.5 mg)

      • รับประทานยา 1 เม็ด ให้เร็วที่สุด หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน
      • ควรรับประทานภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) หลังมีเพศสัมพันธ์ แต่ประสิทธิภาพจะสูงสุดหากรับประทานภายใน 24 ชั่วโมงแรก
      • คำแนะนำ ปัจจุบันวิธีนี้เป็นที่นิยมมากกว่า เนื่องจากสะดวก รับประทานครั้งเดียวจบ และให้ผลไม่แตกต่างจากแบบ 2 เม็ด
  • สำหรับยาแผงละ 2 เม็ด (Levonorgestrel 0.75 mg)

    • วิธีที่ 1 (วิธีดั้งเดิม)
      1. รับประทานยาเม็ดแรก ให้เร็วที่สุด ภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) หลังมีเพศสัมพันธ์
      2. รับประทานยาเม็ดที่สอง หลังจากรับประทานเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง
    • วิธีที่ 2 (รับประทานพร้อมกัน)
      1. รับประทานยาทั้ง 2 เม็ด (รวมเป็น 1.5 mg) พร้อมกันในครั้งเดียว ให้เร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมง (3 วัน) หลังมีเพศสัมพันธ์
      2. คำแนะนำ มีการศึกษาพบว่าการรวบรับประทาน 2 เม็ดในครั้งเดียว ให้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการแบ่งรับประทาน 2 ครั้ง และสะดวกกว่า ลดโอกาสการลืมรับประทานยาเม็ดที่สอง

ข้อควรจำ

  • หากมีอาการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจจำเป็นต้องรับประทานยาซ้ำ
  • ประสิทธิภาพของยาจะลดลงตามเวลาที่ผ่านไป ดังนั้นควรรีบรับประทานให้เร็วที่สุด

ข้อดี (Advantages)

  • ประสิทธิภาพสูงเมื่อใช้อย่างถูกวิธี สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 85-95% หากรับประทานภายใน 24 ชั่วโมงแรก
  • เป็นทางเลือกในกรณีฉุกเฉิน มีประโยชน์อย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ถุงยางอนามัยชำรุด หรือการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
  • หาซื้อได้ง่าย สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้
  • ใช้งานสะดวก โดยเฉพาะรูปแบบ 1 เม็ดที่รับประทานเพียงครั้งเดียว

ข้อเสีย (Disadvantages)

  • ประสิทธิภาพต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดแบบปกติ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์น้อยกว่าการใช้ยาคุมแบบรายเดือน, การฉีดยาคุม หรือการฝังยาคุมอย่างสม่ำเสมอ
  • ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) ยานี้ป้องกันได้แค่การตั้งครรภ์ ไม่สามารถป้องกันโรคเอดส์, ซิฟิลิส, หนองใน หรือโรคอื่นๆ ได้ การป้องกันโรคต้องใช้ถุงยางอนามัยเท่านั้น
  • ผลข้างเคียง อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้ (จะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป)
  • อาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อน รอบเดือนในเดือนถัดไปอาจมาเร็วขึ้น ช้าลง หรือมีปริมาณเลือดที่เปลี่ยนแปลงไป
  • เพิ่มความเสี่ยงการตั้งครรภ์นอกมดลูก แม้จะเกิดขึ้นได้น้อย แต่หากรับประทานยาแล้วยังคงตั้งครรภ์ มีความเสี่ยงที่จะเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูกสูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นภาวะที่อันตราย

คำเตือนและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ห้ามใช้ยานี้ในกรณีต่อไปนี้

  • ผู้ที่ตั้งครรภ์แล้ว หรือสงสัยว่ากำลังตั้งครรภ์ (ยานี้ไม่สามารถทำให้แท้งได้)
  • ผู้ที่มีประวัติแพ้ตัวยา Levonorgestrel
  • ผู้ที่มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • ผู้ที่มีประวัติหรือเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน (Thromboembolic disease)
  • ผู้ที่เป็นโรคตับรุนแรง

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย (มักไม่รุนแรงและหายไปเอง)

  • คลื่นไส้ อาเจียน เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด อาจบรรเทาได้โดยการรับประทานยาพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันที
  • ปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ
  • เจ็บคัดเต้านม
  • ปวดท้อง หรือปวดเกร็งคล้ายช่วงมีประจำเดือน
  • รู้สึกอ่อนเพลีย
  • มีเลือดออกกะปริบกะปรอย อาจพบเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อยก่อนจะถึงรอบเดือนปกติ

สัญญาณอันตรายที่ควรไปพบแพทย์ทันที

  • ปวดท้องรุนแรงผิดปกติ (อาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์นอกมดลูก)
  • เจ็บหน้าอก หรือหายใจถี่
  • ปวดศีรษะอย่างรุนแรง หรือมีการมองเห็นที่ผิดปกติไป
  • ปวดขาหรือน่องอย่างรุนแรง

คำถามที่พบบ่อย (Frequently Asked Questions – FAQ)

Q1: ยาคุมฉุกเฉินแอปคาร์ นอร์แพก ใช้เป็นยาคุมปกติได้หรือไม่? A1: ไม่ได้เด็ดขาด ยานี้มีปริมาณฮอร์โมนที่สูงกว่ายาคุมแบบรายเดือนมาก ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น การใช้บ่อยๆ จะรบกวนรอบเดือนอย่างมาก และมีประสิทธิภาพโดยรวมต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดปกติ

Q2: ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยแค่ไหน? A2: ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 ครั้ง (2 แผง) ในรอบเดือนเดียวกัน เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงและทำให้รอบเดือนแปรปรวนอย่างมาก หากมีความจำเป็นต้องคุมกำเนิดบ่อยครั้ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีการคุมกำเนิดระยะยาวที่เหมาะสมกว่า

Q3: หากรับประทานยาช้ากว่า 72 ชั่วโมง จะยังได้ผลหรือไม่? A3: ประสิทธิภาพของยาจะลดลงอย่างมากหลังจาก 72 ชั่วโมงไปแล้ว แต่ยังมีข้อมูลว่าอาจพอช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ได้บ้างจนถึง 120 ชั่วโมง (5 วัน) แต่ไม่แนะนำให้รอ ควรรับประทานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

Q4: หลังกินยาคุมฉุกเฉินแล้ว จะมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันอีกได้หรือไม่? A4: ไม่ได้ ยาจะป้องกันเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ครั้งก่อนหน้าที่จะกินยาเท่านั้น ไม่ได้มีผลคุ้มกันไปถึงอนาคต หากจะมีเพศสัมพันธ์อีก ต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่น เช่น ถุงยางอนามัย

Q5: จะรู้ได้อย่างไรว่ายาได้ผลและไม่ตั้งครรภ์? A5: สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดคือการมีประจำเดือนมาตามปกติ หรือคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อย หากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 1 สัปดาห์จากวันที่คาดว่าควรจะมา ควรทำการตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความแน่ใจ

Q6: ยานี้มีผลต่อน้ำหนักตัวหรือไม่? A6: ผลกระทบต่อน้ำหนักตัวจากการใช้ยาคุมฉุกเฉินเพียงครั้งคราวนั้นมีน้อยมากและยังไม่มีหลักฐานชัดเจน

รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม

  • การเก็บรักษา ควรเก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้อง ไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส พ้นจากแสงแดดและความชื้น และเก็บให้พ้นมือเด็ก
  • ปฏิกิริยากับยาอื่น ยาบางชนิดอาจลดประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินได้ เช่น ยารักษาวัณโรค (Rifampicin), ยารักษาโรคลมชักบางชนิด, ยาต้านไวรัสเอชไอวี และสมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ต (St. John’s Wort) หากคุณกำลังใช้ยาเหล่านี้ ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนใช้ยา

โดยสรุป ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน แอปคาร์ นอร์แพก เป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ แต่ควรใช้ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น การทำความเข้าใจวิธีใช้ ข้อดี ข้อเสีย และคำเตือนต่างๆ จะช่วยให้สามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด และหากมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง