ยาคุมกำเนิด แทนซี วัน (Tansy One) มีกี่เม็ด วิธีกิน ข้อดี ข้อเสีย คำเตือน
ยาคุมกำเนิด แทนซี วัน (Tansy One) เป็นยาคุมกำเนิดชนิดฉุกเฉิน (Emergency Contraceptive Pill) ที่ใช้สำหรับป้องกันการตั้งครรภ์ “หลัง” การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือเกิดความผิดพลาดจากการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น เช่น ถุงยางอนามัยรั่วหรือฉีกขาด, ลืมรับประทานยาคุมกำเนิดแบบปกติ, หรือการนับระยะปลอดภัยผิดพลาด
สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจเป็นอันดับแรกคือ แทนซี วัน ไม่ใช่ยาคุมกำเนิดสำหรับใช้เป็นประจำ และไม่ใช่ยาทำแท้ง แต่เป็น “แผนสำรอง” ในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น
ใน 1 กล่องมีกี่เม็ด?
- มี 1 เม็ด ยาคุมกำเนิดแทนซี วัน ถูกออกแบบมาให้เป็นยาแบบ “รับประทานครั้งเดียวจบ” (Single Dose Regimen)
- เหตุผล ใน 1 กล่องจะบรรจุยาเพียง 1 เม็ดเท่านั้น เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ลดความสับสน และเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้จะรับประทานยาได้ครบถ้วนตามขนาดที่ถูกต้อง เมื่อเทียบกับยาคุมฉุกเฉินรุ่นเก่าที่ต้องรับประทาน 2 ครั้ง ห่างกัน 12 ชั่วโมง
ส่วนประกอบสำคัญ
- ตัวยาสำคัญ ลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel)
- ปริมาณ 1.5 มิลลิกรัม (mg) ต่อ 1 เม็ด
- ลีโวนอร์เจสเตรลคืออะไร?
- เป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ในกลุ่ม “โปรเจสติน” (Progestin) ซึ่งเลียนแบบการทำงานของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่ร่างกายสร้างขึ้นตามธรรมชาติ
- เป็นตัวยาเดียวกับที่ใช้ในยาคุมกำเนิดแบบปกติหลายยี่ห้อ แต่ในยาคุมฉุกเฉินจะมีความเข้มข้นของฮอร์โมนสูงกว่ามาก เพื่อให้สามารถออกฤทธิ์ได้ทันทีในภาวะฉุกเฉิน
- กลไกการออกฤทธิ์ การรับประทานยาที่มีฮอร์โมนลีโวนอร์เจสเตรลในปริมาณสูงหลังมีเพศสัมพันธ์ จะเข้าไปรบกวนกระบวนการปกติที่นำไปสู่การตั้งครรภ์ โดยมีกลไกหลักๆ ดังนี้
- ยับยั้งหรือชะลอการตกไข่ (Inhibition or Delay of Ovulation) เป็นกลไกที่สำคัญที่สุด หากรับประทานยาก่อนที่ร่างกายจะมีการตกไข่ ฮอร์โมนปริมาณสูงจะไปป้องกันไม่ให้ไข่ถูกปล่อยออกมาจากรังไข่ เมื่อไม่มีไข่ตก อสุจิก็ไม่สามารถปฏิสนธิได้
- ทำให้มูกบริเวณปากมดลูกข้นเหนียวขึ้น (Thickening of Cervical Mucus) ทำให้อสุจิเคลื่อนที่เข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อไปพบกับไข่ได้ยากลำบากยิ่งขึ้น
- อาจส่งผลต่อเยื่อบุโพรงมดลูก (Altering the Endometrium) ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน (ในกรณีที่การปฏิสนธิเกิดขึ้นแล้ว)
- ข้อควรทราบ ยาจะไม่มีประสิทธิภาพหากกระบวนการฝังตัวของตัวอ่อนในโพรงมดลูกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ดังนั้น ยานี้จึงไม่ใช่ยาทำแท้ง
วิธีกินยาคุม แทนซี วัน
ประสิทธิภาพของยาขึ้นอยู่กับ “ความรวดเร็ว” ในการรับประทานยาหลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งเร็วยิ่งดี
- กฎสำคัญที่สุด รับประทานยา 1 เม็ด ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน
- กรอบเวลาและประสิทธิภาพ
- ภายใน 24 ชั่วโมง เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์จะสูงที่สุด (ประมาณ 95%)
- ภายใน 25-48 ชั่วโมง ประสิทธิภาพลดลงมาเล็กน้อย (ประมาณ 85%)
- ภายใน 49-72 ชั่วโมง (3 วัน) ประสิทธิภาพจะลดลงอีก (ประมาณ 58%) แต่ยังถือว่าช่วยป้องกันได้
- หลัง 72 ชั่วโมง ไม่แนะนำให้ใช้ยา เนื่องจากประสิทธิภาพจะลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม บางการศึกษาระบุว่าอาจยังพอมีประสิทธิภาพอยู่บ้างภายใน 120 ชั่วโมง (5 วัน) แต่ไม่ควรคาดหวังผลลัพธ์ที่ดี
- คำแนะนำเพิ่มเติม
- สามารถรับประทานยาพร้อมอาหารหรือไม่ก็ได้ หากมีประวัติคลื่นไส้ง่าย แนะนำให้รับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหารทันทีเพื่อลดผลข้างเคียง
- กรณีอาเจียน หากคุณอาเจียนภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยาเข้าไป ให้รีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที เพราะอาจจำเป็นต้องรับประทานยาซ้ำอีก 1 เม็ด
ข้อดี
- สะดวกและง่าย ด้วยการเป็นยาเม็ดเดียว ทำให้รับประทานง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องการรับประทานยาเม็ดที่สอง
- ประสิทธิภาพสูง (เมื่อใช้อย่างถูกต้อง) หากรับประทานอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมงแรก ถือเป็นวิธีป้องกันการตั้งครรภ์ฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพสูง
- เป็นทางเลือกในภาวะฉุกเฉิน ช่วยลดความเสี่ยงจากการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ในสถานการณ์ที่ผิดพลาด
- เข้าถึงง่าย สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ (แต่ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้เสมอ)
ข้อเสียและผลข้างเคียง
- ไม่ใช่สำหรับการใช้ประจำ ประสิทธิภาพโดยรวมต่ำกว่ายาคุมกำเนิดแบบปกติ และมีผลข้างเคียงจากฮอร์โมนปริมาณสูง ไม่ควรใช้แทนซี วัน หรือยาคุมฉุกเฉินยี่ห้ออื่นเป็นวิธีคุมกำเนิดหลัก
- ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย (มักไม่รุนแรงและหายไปใน 1-2 วัน)
- คลื่นไส้ อาเจียน (พบบ่อยที่สุด)
- ปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ
- อ่อนเพลีย, อ่อนล้า
- เจ็บคัดเต้านม
- ปวดท้อง หรือปวดเกร็งบริเวณท้องน้อย
- ผลกระทบต่อรอบเดือน
- เลือดออกกะปริบกะปรอย อาจมีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อยภายในสัปดาห์แรกหลังรับประทานยา
- ประจำเดือนมาผิดปกติ รอบเดือนถัดไปอาจมาเร็วขึ้น, ช้าลง, หรือมีปริมาณเลือดประจำเดือนแตกต่างไปจากเดิม (อาจมากขึ้นหรือน้อยลง)
- ข้อควรระวัง หากประจำเดือนของคุณมาช้ากว่าปกติเกิน 7 วัน (1 สัปดาห์) หรือลักษณะประจำเดือนผิดปกติไปมาก ควรทำการตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความแน่ใจ
คำเตือนและข้อควรระวังที่สำคัญที่สุด
- ย้ำ! ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยาคุมฉุกเฉินป้องกันได้แค่การตั้งครรภ์ แต่ ไม่สามารถป้องกัน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) เช่น HIV, ซิฟิลิส, หนองใน, เริม ฯลฯ ได้เลย การใช้ถุงยางอนามัยยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรค
- ห้ามใช้เป็นยาคุมกำเนิดรายเดือน การใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ (มากกว่า 1-2 ครั้งในรอบเดือนเดียวกัน) จะทำให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนในปริมาณที่สูงเกินความจำเป็น ส่งผลให้รอบเดือนรวนอย่างรุนแรง และเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียง
- ข้อห้ามใช้
- ผู้ที่ตั้งครรภ์แล้ว หรือสงสัยว่าอาจจะตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ตัวยา Levonorgestrel
- ผู้ที่มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ผู้ที่เป็นโรคตับรุนแรง
- ข้อควรระวังในการใช้ (ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน)
- ผู้ที่มีประวัติการตั้งครรภ์นอกมดลูก
- ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับการดูดซึมอาหารที่รุนแรง (เช่น โรคโครห์น) เพราะอาจลดประสิทธิภาพของยา
- ผู้ที่กำลังใช้ยาบางชนิดที่อาจลดประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินได้ เช่น ยารักษาวัณโรค (Rifampicin), ยารักษาโรคลมชักบางชนิด (Phenytoin, Carbamazepine), ยาต้านไวรัส HIV บางชนิด (Ritonavir) และสมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ต (St. John’s Wort)
สรุป ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน “แทนซี วัน” เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม แต่ต้องใช้อย่างเข้าใจและถูกวิธี สิ่งสำคัญคือต้องรับประทานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และต้องตระหนักเสมอว่ายานี้ไม่ใช่ทางเลือกสำหรับการคุมกำเนิดในระยะยาว หากคุณพบว่าตัวเองต้องพึ่งพายาคุมฉุกเฉินบ่อยครั้ง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อเลือกวิธีการคุมกำเนิดแบบปกติที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงกว่าสำหรับคุณ