ในยุคที่ใส่ใจสุขภาพและการควบคุมน้ำหนักกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนเมือง “กาแฟลดน้ำหนัก” หรือ “กาแฟคุมหิว” ได้กลายเป็นไอเทมยอดฮิตที่หาซื้อง่ายในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้ตื่นตัวในตอนเช้า แต่ยังมีส่วนผสมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยควบคุมความอยากอาหารและเร่งการเผาผลาญไขมัน บทความนี้ได้รวบรวม 10 กาแฟลดน้ำหนักที่น่าสนใจใน 7-Eleven มาให้คุณพิจารณา โดยเน้นรายละเอียดของส่วนประกอบสำคัญ เพื่อให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
หลักการสำคัญในการเลือกกาแฟคุมหิวใน 7-11
ก่อนจะหยิบยี่ห้อไหน ลองพลิกดูฉลากและใช้ 3 หลักการนี้ในการตัดสินใจครับ
1. อ่านฉลากโภชนาการเป็นอันดับแรก
นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่าเพิ่งเชื่อแค่คำโฆษณาหน้าซอง ให้ดูข้อมูลความเป็นจริงด้านหลังเสมอครับ
- พลังงาน (แคลอรี่) เลือกสูตรที่ให้พลังงานต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยทั่วไปควรอยู่ระหว่าง 50-80 kcal ต่อซอง
- น้ำตาล (Sugar) สำคัญมาก! เลือกสูตรที่น้ำตาล 0% หรือน้อยที่สุด เพราะน้ำตาลคือตัวการสำคัญของความอ้วน กาแฟบางยี่ห้ออาจใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล (เช่น ซูคราโลส) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
- ไขมัน (Fat) และ คอเลสเตอรอล (Cholesterol) มองหาสูตร “ไขมัน 0%” และ “คอเลสเตอรอล 0%” ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้ครีมเทียมจากไขมันพืชหรือใยอาหารแทน
2. มองหาส่วนผสมพิเศษที่ช่วย “คุมหิว” และ “เผาผลาญ”
กาแฟกลุ่มนี้มักจะใส่สารสกัดเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อช่วยให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ส่วนผสมที่ควรมองหาคือ:
- ใยอาหาร (Fiber) ตัวนี้สำคัญที่สุดสำหรับการคุมหิว ใยอาหารสูงจะช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดความอยากอาหาร และลดการกินจุกจิกได้ดี
- แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยในกระบวนการดึงไขมันสะสมไปเผาผลาญเป็นพลังงาน เหมาะสำหรับคนที่ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย
- สารสกัดจากถั่วขาว (White Kidney Bean Extract) มีคุณสมบัติช่วยบล็อกแป้ง (คาร์โบไฮเดรต) ทำให้ร่างกายดูดซึมแป้งได้น้อยลง
- สารสกัดจากกระบองเพชร (Cactus Extract) ช่วยลดความอยากอาหารและดักจับไขมัน
- โครเมียม พิโคลิเนต (Chromium Picolinate) ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ทำให้ไม่หิวบ่อย และช่วยกระบวนการเผาผลาญ
3. เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย
ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์มีเครื่องหมาย อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) รับรองชัดเจนบนซอง เพื่อความมั่นใจในมาตรฐานและความปลอดภัย
10 กาแฟลดน้ำหนัก คุมหิวในเซเว่น 7-11
1. ทรูสเล็น คอฟฟี่ พลัส (Truslen Coffee Plus)
เป็นหนึ่งในแบรนด์แรกๆ ที่หลายคนนึกถึง มีชื่อเสียงด้านการควบคุมน้ำหนักมาอย่างยาวนาน
- จุดเด่น สูตรปราศจากน้ำตาล (Sugar-Free) และคอเลสเตอรอลต่ำ ให้พลังงานน้อย แต่ยังคงรสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม
- ส่วนประกอบสำคัญ
- แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine) กรดอะมิโนที่มีบทบาทสำคัญในการดึงไขมันที่สะสมในร่างกายไปเผาผลาญเป็นพลังงาน เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย
- โครเมียม พิโคลิเนต (Chromium Picolinate) ทำงานร่วมกับอินซูลินในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความอยากน้ำตาลและของหวาน
- แอล-กลูตามีน, แอล-อาร์จินีน, แอล-ไกลซีน กลุ่มกรดอะมิโนที่ช่วยเสริมสร้างและรักษามวลกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นแหล่งเผาผลาญพลังงานที่สำคัญของร่างกาย
- ซูคราโลส (Sucralose) วัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล ไม่ให้พลังงาน
- เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักอย่างจริงจัง, ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ และต้องการลดความอยากของหวาน
2. เนเจอร์กิฟ คอฟฟี่ 21 (Naturegift Coffee 21)
กาแฟปรุงสำเร็จชนิดผงที่มีส่วนผสมของวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด เน้นคุณค่าทางโภชนาการควบคู่กับการควบคุมน้ำหนัก
- จุดเด่น รวมวิตามินและแร่ธาตุถึง 21 ชนิดไว้ในซองเดียว พร้อมคุณสมบัติช่วยควบคุมน้ำหนัก ไม่มีคอเลสเตอรอล
- ส่วนประกอบสำคัญ
- วิตามินและเกลือแร่รวม เช่น วิตามิน A, B1, B2, B6, B12, C, E, แคลเซียม, และสังกะสี ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นแม้ในช่วงควบคุมอาหาร
- โสมสกัด (Ginseng Extract) ช่วยบำรุงร่างกาย ลดความอ่อนเพลีย และเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
- โอลิโกฟรุคโตส (Oligofructose) เป็นใยอาหารพรีไบโอติก ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย และทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น
- โครเมียม คีเลต (Chromium Chelate) ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความอยากอาหาร
- เหมาะกับใคร ผู้ที่ควบคุมอาหารและกังวลว่าจะขาดสารอาหาร, ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพโดยรวมควบคู่กับการลดน้ำหนัก
3. ฟิตเน่ คอฟฟี่ (Fitne Coffee)
แบรนด์ที่คุ้นเคยกันดี มีให้เลือกหลายสูตร โดยสูตรที่เน้นเรื่องการคุมหิวและเผาผลาญมักจะมีส่วนผสมของใยอาหารและสารสกัดจากถั่วขาว
- จุดเด่น หาซื้อง่าย มีหลายสูตรให้เลือกตามความต้องการ ราคาไม่แพง
- ส่วนประกอบสำคัญ (ในสูตรยอดนิยม)
- ใยอาหาร (Fiber) เพิ่มกากใยในระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและนานขึ้น กระตุ้นการขับถ่าย
- สารสกัดจากถั่วขาว (White Kidney Bean Extract) มีคุณสมบัติเป็น “Carb Blocker” คือ ช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยแป้ง ทำให้ร่างกายดูดซึมคาร์โบไฮเดรตได้น้อยลง
- แอล-คาร์นิทีน ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมัน
- วิตามิน บี 1, 2, 6 มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง และกระบวนการเผาผลาญ
- เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการตัวช่วยในการบล็อกแป้ง, ต้องการเพิ่มใยอาหารเพื่อช่วยในการขับถ่ายและคุมหิว
4. บัดดี้ดีน สเลนด์ คอฟฟี่ (Buddy Dean Slen D Coffee)
กาแฟที่เน้นเรื่องการคุมหิวและให้พลังงานต่ำเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมแคลอรีต่อวันอย่างเคร่งครัด
- จุดเด่น ให้พลังงานต่ำ (ประมาณ 50-60 Kcal ต่อซอง) ไม่มีน้ำตาล และมีส่วนผสมของคอลลาเจน
- ส่วนประกอบสำคัญ
- อินูลิน (Inulin) ใยอาหารชนิดละลายน้ำได้ ช่วยให้อิ่มนาน ปรับสมดุลลำไส้ และเป็นอาหารของจุลินทรีย์ที่ดี
- คอลลาเจนจากปลาทะเล (Marine Collagen) ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ยังคงความยืดหยุ่นสดใส แม้อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก
- สารสกัดจากกระบองเพชร (Cactus Extract) เป็นที่รู้จักกันว่ามีส่วนช่วยดักจับไขมันในมื้ออาหาร และลดความอยากอาหาร
- สารสกัดจากส้มแขก (Garcinia Extract) มีสาร HCA ช่วยยับยั้งการสร้างไขมันใหม่และนำไขมันเก่าไปใช้เป็นพลังงาน
- เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการกาแฟแคลอรีต่ำ, ต้องการตัวช่วยคุมหิวพร้อมบำรุงผิว
5. เขาช่อง คอฟฟี่ 3in1 คุมน้ำหนัก (Khao Shong Coffee 3in1 Weight Control)
แบรนด์กาแฟไทยแท้ที่พัฒนาสูตรเพื่อสุขภาพออกมาตอบโจทย์คนรักการดื่มกาแฟที่ต้องการดูแลรูปร่าง
- จุดเด่น รสชาติกาแฟยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของเขาช่อง แต่ปรับสูตรให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น
- ส่วนประกอบสำคัญ
- กาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้า ให้รสชาติกาแฟที่เข้มข้นและมีกลิ่นหอม
- โอลิโกฟรุคโตส ใยอาหารที่ช่วยให้อิ่มนานและดีต่อระบบขับถ่าย
- แอล-คาร์นิทีน ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน
- สารสกัดจากถั่วขาว ช่วยบล็อกการย่อยและการดูดซึมแป้ง
- ใช้ซูคราโลส เป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล
- เหมาะกับใคร แฟนกาแฟเขาช่องที่ต้องการเปลี่ยนมาดื่มสูตรที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก
6. WINK W FIBER COFFEE (วิงค์ ดับเบิ้ลยู ไฟเบอร์ คอฟฟี่)
กาแฟที่เน้นเรื่องไฟเบอร์สูงเป็นพิเศษ ชูจุดเด่นเรื่องการดีท็อกซ์และช่วยเรื่องระบบขับถ่ายอย่างชัดเจน
- จุดเด่น ไฟเบอร์สูงมาก ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายอย่างเห็นผล เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาท้องผูก
- ส่วนประกอบสำคัญ
- ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructooligosaccharide) ใยอาหารพรีไบโอติกชั้นดี ช่วยปรับสมดุลลำไส้และทำให้อุจจาระนุ่มขึ้น
- ไซเลียม ฮัสก์ (Psyllium Husk) ใยอาหารที่สามารถพองตัวได้ดีในกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มได้นานมาก และช่วยกวาดล้างสิ่งตกค้างในลำไส้
- สารสกัดจากผลไม้ต่างๆ เช่น สารสกัดจากส้มแขก, บิลเบอร์รี่ ที่มีส่วนช่วยในเรื่องการเผาผลาญและต้านอนุมูลอิสระ
- เหมาะกับใคร ผู้ที่มีปัญหาท้องผูก, ต้องการดีท็อกซ์ลำไส้ และต้องการกาแฟที่ช่วยให้อิ่มนานเป็นพิเศษ
7. แม็กซ์เพรสโซ่ ทรี-อิน-วัน ดี-ท็อกซี่ (Maxpresso 3-in-1 D-Toxy)
กาแฟจากประเทศเกาหลีที่เน้นคอนเซ็ปต์การดีท็อกซ์ควบคู่ไปกับการดื่มกาแฟ
- จุดเด่น เป็นกาแฟที่ผสานแนวคิดเรื่องการล้างสารพิษออกจากร่างกาย
- ส่วนประกอบสำคัญ
- กาแฟคุณภาพ ใช้เมล็ดกาแฟที่ให้รสชาตินุ่มลึกตามสไตล์กาแฟเกาหลี
- สารสกัดจากส้มแขก (Garcinia Cambogia) ช่วยลดการสะสมของไขมัน
- พอลิเดกซ์โทรส (Polydextrose) ใยอาหารชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มมวลอุจจาระและกระตุ้นการขับถ่าย
- เหมาะกับใคร ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสชาตินุ่มๆ และมองหาตัวช่วยเรื่องการขับถ่ายและการดีท็อกซ์
8. เบ ทา คอฟฟี่ (Be vita Coffee)
กาแฟปรุงสำเร็จที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติและสมุนไพรเพื่อการดูแลรูปร่างและสุขภาพ
- จุดเด่น มีส่วนผสมของสารสกัดจากสมุนไพรหลายชนิด ไม่มีน้ำตาลและไขมันทรานส์
- ส่วนประกอบสำคัญ
- สารสกัดจากเมล็ดกาแฟเขียว (Green Coffee Bean Extract) อุดมด้วยกรดคลอโรจีนิก (Chlorogenic Acid) ซึ่งช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลและไขมัน และกระตุ้นการเผาผลาญ
- สารสกัดจากโกจิเบอร์รี่ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงร่างกาย
- สารสกัดจากเจียวกู่หลาน สมุนไพรที่ช่วยลดระดับไขมันและน้ำตาลในเลือด
- อินูลิน ช่วยคุมหิวและปรับสมดุลการขับถ่าย
- เหมาะกับใคร ผู้ที่ชื่นชอบส่วนผสมจากธรรมชาติและสมุนไพร, ต้องการตัวช่วยเผาผลาญจากสารสกัดเมล็ดกาแฟเขียว
9. เนสกาแฟ โพรเทค โพรสลิม (Nescafe Protect Proslim)
แบรนด์กาแฟยอดนิยมที่ออกผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมาตอบโจทย์ตลาด โดยชูจุดเด่นเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระ
- จุดเด่น มีสารสกัดจากเมล็ดกาแฟคั่วบดละเอียดและสารสกัดจากถั่วขาว เป็นกาแฟไขมันต่ำและไม่มีคอเลสเตอรอล
- ส่วนประกอบสำคัญ
- สารสกัดจากเมล็ดกาแฟเขียว ช่วยในเรื่องการเผาผลาญ
- สารสกัดจากถั่วขาว ช่วยบล็อกคาร์โบไฮเดรต
- ใยอาหาร ช่วยเพิ่มกากใยและทำให้อิ่มนานขึ้น
- สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) จากเมล็ดกาแฟ ช่วยดูแลสุขภาพโดยรวม
- เหมาะกับใคร ผู้ที่คุ้นเคยกับรสชาติของเนสกาแฟ และต้องการตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น
10. กาแฟมอคโคน่า ทรีโอ เอสเปรสโซ่ สูตรน้ำตาลน้อย (Moccona Trio Espresso Less Sugar)
แม้จะไม่ใช่ “กาแฟลดน้ำหนัก” โดยตรง แต่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาล แต่ยังอยากได้รสชาติกาแฟที่เข้มข้น
- จุดเด่น ลดปริมาณน้ำตาลลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับสูตรปกติ แต่ยังคงความหอมและเข้มข้นของกาแฟเอสเปรสโซ่
- ส่วนประกอบสำคัญ
- กาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้า ผสานกันเพื่อให้ได้รสชาติที่ลงตัว
- น้ำตาล (ปริมาณน้อย) ยังคงมีน้ำตาลอยู่บ้าง แต่ในปริมาณที่น้อยกว่าสูตรทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ
- เหมาะกับใคร คอกาแฟที่ต้องการลดการบริโภคน้ำตาลในแต่ละวัน แต่ยังไม่พร้อมที่จะดื่มกาแฟสูตรไม่มีน้ำตาล 100% เป็นก้าวแรกที่ดีในการเริ่มต้นควบคุมน้ำหนัก
เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
การดื่มกาแฟอย่างเดียวอาจไม่เห็นผล หากไม่ทำสิ่งเหล่านี้ควบคู่กันไปครับ
- ดื่มให้ถูกเวลา
- ดื่มก่อนมื้ออาหารประมาณ 30 นาที ใยอาหารในกาแฟจะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และทานอาหารมื้อหลักได้น้อยลง
- ดื่มช่วงเช้าหรือบ่าย เพื่อลดความอยากของว่างระหว่างมื้อ
- หลีกเลี่ยงการดื่มตอนท้องว่างจัด สำหรับบางคนอาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้
- ต้องควบคุมอาหารควบคู่ กาแฟเป็นเพียง “ตัวช่วย” ลดความอยาก แต่ไม่ใช่ “ยามหัศจรรย์” คุณยังต้องเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดของทอด ของมัน และของหวาน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากคุณเลือกสูตรที่มีแอล-คาร์นิทีน การออกกำลังกายจะช่วยให้สารนั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมัน
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ใยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและช่วยเรื่องระบบขับถ่าย
- สังเกตอาการตัวเอง บางคนอาจมีอาการใจสั่นหลังจากดื่มกาแฟลดน้ำหนักบางยี่ห้อ หากมีอาการควรหยุดดื่มหรือลดปริมาณลง
สรุปท้ายบทความ
การเลือกกาแฟลดน้ำหนักใน 7-Eleven ควรพิจารณาจากเป้าหมายของแต่ละบุคคล
- เน้นการเผาผลาญและออกกำลังกาย เลือกยี่ห้อที่มี แอล-คาร์นิทีน และ สารสกัดจากเมล็ดกาแฟเขียว เป็นส่วนประกอบหลัก เช่น Truslen Coffee Plus, Be vita Coffee
- เน้นคุมหิว อิ่มนาน และช่วยขับถ่าย มองหาส่วนผสมของ ใยอาหารสูง เช่น อินูลิน, ไซเลียม ฮัสก์, โอลิโกฟรุคโตส เช่น WINK W FIBER COFFEE, Buddy Dean Slen D Coffee, Naturegift Coffee 21
- เน้นบล็อกแป้งและไขมัน หากมื้ออาหารของคุณเน้นแป้งและของมัน ให้มองหาส่วนผสมอย่าง สารสกัดจากถั่วขาว และ สารสกัดจากกระบองเพชร เช่น Fitne Coffee, Khao Shong
- เริ่มต้นควบคุมน้ำตาล หากยังไม่ชินกับกาแฟไม่มีน้ำตาลเลย ลองเริ่มจากสูตรน้ำตาลน้อยอย่าง Moccona Trio Less Sugar
ข้อควรจำ กาแฟเหล่านี้เป็นเพียง “ตัวช่วย” ในการควบคุมน้ำหนักเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ (ไม่เกิน 1-2 ซองต่อวัน) เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับคาเฟอีนมากเกินไป