MAC (Make-up Art Cosmetics) คือแบรนด์เครื่องสำอางระดับมืออาชีพที่ครองใจผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะ “ลิปสติก” ที่เปรียบเสมือนไอคอนของแบรนด์ ด้วยเฉดสีที่มีให้เลือกนับร้อย, เนื้อสัมผัสหลากหลาย และคุณภาพที่เชื่อถือได้ในเรื่องเม็ดสีที่คมชัดและความติดทนนาน การเลือกลิปสติก MAC สักแท่งจึงไม่ใช่แค่การซื้อเครื่องสำอาง แต่คือการลงทุนในความงามที่บ่งบอกสไตล์ของตัวเอง

วิธีการเลือกลิป MAC ให้เหมาะกับสไตล์การแต่งหน้าและการใช้งาน

การเลือกลิปสติก MAC สักแท่งให้ลงตัวนั้นเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะนอกจากการเลือกสีที่ถูกใจแล้ว การเลือก “เนื้อสัมผัส” (Finish) และ “เฉดสี” ให้เข้ากับสไตล์การแต่งหน้าและโอกาสในการใช้งาน จะช่วยเสริมให้ลุคของคุณสมบูรณ์แบบและโดดเด่นยิ่งขึ้น นี่คือคู่มือและเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเลือกลิปสติก MAC แท่งโปรดได้อย่างมืออาชีพ

เลือกลิป MAC ให้เข้ากับ “สไตล์การแต่งหน้า”

1. สไตล์ Everyday Look (ลุคประจำวัน)

ลุคที่เน้นความเป็นธรรมชาติ สบายๆ ไม่เน้นสีสันจัดจ้าน แต่ทำให้ใบหน้าดูสดใส ไม่โทรม

• เนื้อลิปที่แนะนำ
  • Lustreglass Sheer-Shine ที่สุดของความเป็นธรรมชาติ เนื้อฉ่ำวาวเหมือนลิปบาล์มมีสี ให้ความชุ่มชื้นสูง ทาได้ง่ายๆ แม้ไม่มองกระจก ทำให้ริมฝีปากดูสุขภาพดี
  • Powder Kiss Lipstick สำหรับคนที่ชอบความแมตต์แต่ยังต้องการความสบายปาก เนื้อแมตต์แบบฟุ้งๆ เบลอๆ ให้ลุคที่ดูนุ่มนวล สามารถใช้นิ้วเกลี่ยเบาๆ เพื่อให้ได้ลุคปากระเรื่อเป็นธรรมชาติ
  • Cremesheen Lipstick เนื้อครีมมี่ที่ให้ความชุ่มชื้นและสีสันที่กำลังดี ไม่จัดจ้านเกินไป เหมาะสำหรับเพิ่มสีสันให้ใบหน้าในวันสบายๆ

2. สไตล์เกาหลี (Korean Look)

เน้นงานผิวฉ่ำวาว ดวงตาเปล่งประกาย และริมฝีปากที่ดูอวบอิ่มสุขภาพดี มักใช้เทคนิค Gradient หรือ Ombré Lips

• เนื้อลิปที่แนะนำ
  • Powder Kiss Lipstick / Powder Kiss Velvet Blur Slim Stick เป็นรุ่นที่เกิดมาเพื่อลุคนี้โดยเฉพาะ เนื้อนุ่มเบาสบายที่สามารถสร้างขอบปากเบลอๆ ฟุ้งๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แค่ทาด้านในแล้วใช้นิ้วหรือแปรงเกลี่ยออกมาด้านนอก
  • Lustreglass Sheer-Shine ใช้ทาทับบริเวณกลางริมฝีปากหลังจากทาลิปเนื้อแมตต์ เพื่อเพิ่มความฉ่ำวาว อวบอิ่มตามสไตล์สาวเกาหลี
  • Love Me Lipstick เนื้อซาตินบางเบาที่ให้สีชัดแต่ยังคงความชุ่มชื้น เหมาะกับการทาเต็มปากให้ดูสดใส

3. สไตล์สายฝอ (Western Look)

เน้นโครงหน้าที่คมชัด คิ้วโก่ง ดวงตาสโมคกี้อายส์ และริมฝีปากที่อวบอิ่มได้รูปสวยงาม มักจะทาลิปแบบเต็มริมฝีปากให้ขอบปากคมชัด

• เนื้อลิปที่แนะนำ
  • Retro Matte / Matte Lipstick เป็นหัวใจของลุคนี้ ให้ฟินิชแมตต์สนิทที่ช่วยขับเน้นรูปปากให้เด่นชัดและดูอวบอิ่ม ควรใช้คู่กับดินสอเขียนขอบปาก (Lip Liner) สีที่ใกล้เคียงกันเพื่อความคมเป๊ะ
  • Locked Kiss Ink 24HR Lipcolour สำหรับคนที่ต้องการความติดทนขั้นสุด ลิปจิ้มจุ่มที่ให้สีแน่นและขอบปากที่คมกริบ ไม่เลอะเลือนตลอดวัน
  • Satin Lipstick ตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบความแมตต์จนเกินไป แต่ยังต้องการสีที่แน่นและขอบปากที่ชัดเจน

4. สไตล์ออกงานทางการ/งานกลางคืน (Formal/Evening Look)

ลุคที่ต้องการความหรูหรา ดูดี มีระดับ และโดดเด่น ลิปสติกต้องมีความคมชัดและติดทนนาน

• เนื้อลิปที่แนะนำ
  • Retro Matte Lipstick สีแดงคลาสสิกอย่าง Ruby Woo เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานกลางคืน ให้ลุคที่ดูสง่างามและเป็นอมตะ
  • Locked Kiss Ink 24HR Lipcolour หมดกังวลเรื่องลิปหลุดระหว่างทานอาหารหรือดื่มน้ำ ให้คุณสวยเป๊ะได้ตลอดงาน
  • Amplified Lipstick สำหรับคนที่ต้องการความโดดเด่นของเม็ดสีพร้อมความแวววาวเล็กน้อย ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มน่าดึงดูดภายใต้แสงไฟ

เคล็ดลับการเลือกใช้ลิปสติกให้ตอบโจทย์การใช้งาน

การเลือกลิปให้เข้ากับสีผิว (Skin Tone)

• ผิวขาวอมชมพู (Cool Undertone) เหมาะกับลิปสติกโทนเย็น เช่น สีชมพูนม, สีแดงอมฟ้า (Ruby Woo), สีนู้ดอมชมพู (Mehr), สีม่วงพลัม
• ผิวขาวเหลือง (Warm Undertone) เหมาะกับลิปสติกโทนอุ่น เช่น สีส้มอิฐ (Chili), สีแดงอมส้ม, สีนู้ดอมส้ม/พีช (Velvet Teddy, Mull It Over), สีชมพูคอรัล
• ผิวสองสี/ผิวสีน้ำผึ้ง เป็นโทนสีผิวที่สามารถทาลิปได้หลากหลาย ทั้งโทนส้มอิฐ, แดงสด, นู้ดน้ำตาล (Mocha, Taupe) หรือชมพูตุ่นๆ ก็สวยงาม
• ผิวเข้ม ลิปสติกสีสดจะขับผิวให้ดูโดดเด่นมาก เช่น สีแดงเบอร์กันดี (Diva), สีน้ำตาลช็อกโกแลต, สีม่วงเข้ม หรือสีแดงสด

บทความนี้ได้รวบรวม 10 อันดับลิปสติก MAC รุ่นที่ดีที่สุด โดยคัดเน้นรุ่นที่มีคุณสมบัติเด่นในด้าน “เม็ดสีแน่น” และ “ความติดทนนาน” เพื่อเป็นแนวทางให้คุณเลือกลิปสติกคู่ใจแท่งใหม่ได้ง่ายขึ้น

10 อันดับ ลิปสติก MAC แนะนำ 2025

อันดับที่ 1 MAC Locked Kiss Ink 24HR Lipcolour

ที่สุดของความติดทนยาวนาน ลิปสติกรุ่นใหม่ล่าสุดที่ปฏิวัติวงการลิปจิ้มจุ่มด้วยเทคโนโลยี Pigment Lock ที่ทำให้สีลิปติดทนนานถึง 24 ชั่วโมง กันน้ำ กันเหงื่อ ไม่หลุดลอก และไม่เลอะติดแมสก์

• คุณสมบัติเด่น
  • เนื้อสัมผัส เนื้อลิควิดบางเบา เมื่อเซตตัวแล้วจะเรียบเนียนไปกับริมฝีปาก ไม่รู้สึกหนักหรือเหนอะหนะ
  • เม็ดสี เข้มข้นและแน่นที่สุดในบรรดาทุกรุ่น ปาดเพียงครั้งเดียวก็กลบสีปากเดิมได้มิดสนิท ให้สีที่ชัดเจนเหมือนเพิ่งทาใหม่ตลอดวัน
  • ความติดทน ติดทนนานสูงสุด 24 ชั่วโมง กันน้ำ (Waterproof) และทนต่อการสัมผัส (Transfer-proof)
  • ฟินิชลุค แมตต์สนิท แต่ยังคงความสบายบนริมฝีปาก
  • เฉดสีแนะนำ Meticulous (สีนู้ดชมพูตุ่น), Vicious (สีแดงสด), Bodacious (สีส้มอิฐ)
• ส่วนประกอบสำคัญ
  • Isododecane ตัวทำละลายที่ช่วยให้เนื้อลิปบางเบาและแห้งเร็ว สร้างฟิล์มเคลือบริมฝีปาก
  • Dimethicone Silylate ช่วยสร้างชั้นฟิล์มที่ยืดหยุ่นและกันน้ำ ทำให้ลิปสติกติดทนนาน
  • Passion Fruit Oil, Coconut Oil, Shea Butter ส่วนผสมที่ช่วยบำรุง ให้ความชุ่มชื้น และทำให้ริมฝีปากรู้สึกสบายตลอดการใช้งาน
• บทสรุป เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลิปสติกที่ติดทนถึงขีดสุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ ไม่ต้องการเติมลิประหว่างวัน หรือในโอกาสพิเศษที่ต้องการความเป๊ะตลอดงาน เช่น งานรับปริญญาหรืองานแต่งงาน

อันดับที่ 2 MAC Retro Matte Lipstick

ลิปสติกระดับตำนานที่สร้างชื่อเสียงให้กับ MAC ด้วยฟินิชแบบ “แมตต์กำมะหยี่” ที่แห้งสนิทและเรียบเนียน เป็นรุ่นที่เม็ดสีแน่นที่สุดในรูปแบบแท่ง ให้ลุคที่ดูคลาสสิกและโฉบเฉี่ยว

• คุณสมบัติเด่น
  • เนื้อสัมผัส เนื้อแมตต์ที่ค่อนข้างแห้งและฝืดเล็กน้อยเมื่อทา เพื่อให้ได้ฟินิชที่แมตต์สนิท
  • เม็ดสี เม็ดสีอัดแน่นขั้นสุด ให้สีที่สดชัดและโดดเด่น กลบสีปากได้สมบูรณ์แบบ
  • ความติดทน ติดทนนานมาก (ประมาณ 8 ชั่วโมง) สีจะค่อยๆ เฟดลงอย่างสม่ำเสมอ
  • ฟินิชลุค แมตต์สนิทแบบกำมะหยี่ (Velvet Matte Finish) ไม่มีประกายหรือความวาว
  • เฉดสีแนะนำ Ruby Woo (สีแดงสดอมฟ้าในตำนาน), All Fired Up (สีชมพูบานเย็นสดใส)
• ส่วนประกอบสำคัญ
  • Silica ซิลิกาช่วยดูดซับความมัน ทำให้ได้ฟินิชลุคที่แมตต์สนิท
  • Kaolin (ดินขาว) ช่วยในเรื่องการดูดซับความมันและทำให้เนื้อลิปมีความทึบแสง เม็ดสีแน่น
  • Waxes (Candelilla/Carnauba Wax) ขี้ผึ้งจากพืชที่ช่วยให้ลิปสติกขึ้นรูปเป็นแท่งและติดทนบนริมฝีปาก
• บทสรุป เหมาะสำหรับคนที่รักลิปแมตต์ตัวจริง ต้องการลุคที่ดูคลาสสิก มีระดับ และมั่นใจในความติดทนของสีลิปตลอดวัน แม้เนื้ออาจจะแห้งแต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่า

อันดับที่ 3 MAC Matte Lipstick

รุ่นคลาสสิกที่เป็นจุดเริ่มต้นของใครหลายคน มีเนื้อสัมผัสที่แมตต์แต่ยังคงความครีมมี่อยู่เล็กน้อย ทำให้ทาง่ายกว่ารุ่น Retro Matte แต่ยังคงคุณสมบัติเรื่องเม็ดสีและความติดทนไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

• คุณสมบัติเด่น
  • เนื้อสัมผัส เนื้อแมตต์แบบครีมมี่ (Creamy Matte) นุ่มลื่นกว่า Retro Matte แต่ยังให้ความรู้สึกแมตต์
  • เม็ดสี แน่นและคมชัด ให้สีตรงตามแท่งตั้งแต่ปาดแรก
  • ความติดทน ติดทนได้ดี (ประมาณ 6-8 ชั่วโมง)
  • ฟินิชลุค แมตต์แต่ไม่แห้งจนเกินไป ยังคงความสบายบนริมฝีปาก
  • เฉดสีแนะนำ Velvet Teddy (สีนู้ดเบจอมชมพู), Chili (สีแดงอมส้มอิฐ), Mehr (สีชมพูกุหลาบตุ่นๆ)
• ส่วนประกอบสำคัญ
  • Octyldodecanol แอลกอฮอล์ไขมัน (Fatty Alcohol) ที่ช่วยให้เนื้อลิปนุ่มลื่น ทาง่าย และให้ความชุ่มชื้น
  • Ricinus Communis (Castor) Seed Oil (น้ำมันละหุ่ง) ให้ความชุ่มชื้นและทำให้เนื้อลิปมีความครีมมี่
  • Silica ช่วยควบคุมความมันและให้ฟินิชที่ดูแมตต์
• บทสรุป เป็นลิปแมตต์ที่สมดุลที่สุด เหมาะสำหรับทุกคน ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นไปจนถึงมืออาชีพ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะทาง่าย สบายปาก และติดทน

อันดับที่ 4 MAC Powder Kiss Velvet Blur Slim Stick

ลิปสติกเนื้อแมตต์กำมะหยี่ในรูปแบบแท่งสลิม เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรุ่น Powder Kiss ให้เม็ดสีที่สดชัดขึ้น แต่ยังคงความนุ่มเบาสบายปากอันเป็นเอกลักษณ์ ทาแล้วให้ลุคปากเบลอๆ สวยงาม

• คุณสมบัติเด่น
  • เนื้อสัมผัส นุ่มลื่นเหมือนกำมะหยี่ เบาสบายเหมือนไม่ได้ทาลิป
  • เม็ดสี เม็ดสีชัดเจนและเข้มข้นขึ้นกว่ารุ่น Powder Kiss เดิม สามารถทาให้เต็มริมฝีปากหรือทาแบบเบลอขอบปากก็ได้
  • ความติดทน ติดทนนาน 12 ชั่วโมง พร้อมคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น
  • ฟินิชลุค แมตต์กำมะหยี่ที่ให้เอฟเฟกต์ซอฟต์โฟกัส ทำให้ริมฝีปากดูเรียบเนียน
  • เฉดสีแนะนำ Mull It Over (สีนู้ดพีช), Devoted To Chili (สีแดงอิฐโทนอุ่น), Teddy 2.0 (สีนู้ดเบจเข้ม)
• ส่วนประกอบสำคัญ
  • Dimethicone ซิลิโคนชนิดที่ให้ความรู้สึกนุ่มลื่น เบาสบาย และช่วยเบลอริ้วรอยบนริมฝีปาก
  • Moisture-Coated Powder Pigments เทคโนโลยีเม็ดสีที่เคลือบด้วยความชุ่มชื้น ทำให้ได้ฟินิชที่แมตต์แต่ไม่แห้ง
  • Lycopene สารสกัดจากมะเขือเทศ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
• บทสรุป เหมาะสำหรับคนที่ชอบลุคปากเบลอๆ สไตล์เกาหลี แต่ต้องการเม็ดสีที่ชัดเจนและความติดทนที่ยาวนานกว่าเดิม เป็นลิปแมตต์ยุคใหม่ที่ทั้งสวยและสบายปาก

อันดับที่ 5 MAC Amplified Lipstick

ลิปสติกเนื้อครีมที่โดดเด่นเรื่องเม็ดสีที่สดชัดและจัดจ้าน ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นและชุ่มชื้น แต่ยังคงความติดทนได้ดี เป็นตัวเลือกที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเนื้อแมตต์และเนื้อเชียร์

• คุณสมบัติเด่น
  • เนื้อสัมผัส เนื้อครีมเข้มข้น (Ultra-creamy) นุ่มลื่นและทาง่ายมาก
  • เม็ดสี เข้มข้นและสดชัดมาก ให้สีที่สม่ำเสมอและเต็มพื้นที่ริมฝีปาก
  • ความติดทน ติดทนปานกลางถึงดี (ประมาณ 4-6 ชั่วโมง)
  • ฟินิชลุค กึ่งซาติน (Semi-lustrous finish) มีความแวววาวเล็กน้อย ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม
  • เฉดสีแนะนำ Dubonnet (สีแดงไวน์เข้ม), Blankety (สีนู้ดชมพูอ่อน)
• ส่วนประกอบสำคัญ
  • Polybutene ช่วยให้เนื้อลิปมีความเงางามและหนืดเล็กน้อย ทำให้เกาะติดริมฝีปากได้ดี
  • Castor Seed Oil (น้ำมันละหุ่ง) ส่วนประกอบหลักที่ให้ความชุ่มชื้นและความครีมมี่
  • Tocopherol (Vitamin E) สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงริมฝีปาก
• บทสรุป เหมาะสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้งแต่ยังต้องการลิปสติกที่เม็ดสีแน่นและคมชัด ให้ทั้งสีสันที่โดดเด่นและความรู้สึกสบาย ชุ่มชื้นตลอดวัน

อันดับที่ 6 MAC Satin Lipstick

ลิปสติกเนื้อซาตินที่เป็นเหมือนพี่น้องกับเนื้อแมตต์ แต่มีความเงาเล็กน้อยและให้ความรู้สึกสบายปากมากกว่า เป็นเนื้อที่ลงตัวระหว่างความคลาสสิกและความชุ่มชื้น

• คุณสมบัติเด่น
  • เนื้อสัมผัส เนื้อนุ่มเนียนคล้ายซาติน ไม่แห้งและไม่มันวาวจนเกินไป
  • เม็ดสี เม็ดสีแน่นชัดเจน สามารถกลบสีปากได้ดี
  • ความติดทน ติดทนได้ดี (ประมาณ 5-7 ชั่วโมง) ให้สีที่ชัดเจนยาวนาน
  • ฟินิชลุค ซาติน (Satin Finish) มีความเงาพอดีๆ ทำให้ริมฝีปากดูสุขภาพดี
  • เฉดสีแนะนำ Mocha (สีนู้ดพีชอมน้ำตาล), MAC Red (สีแดงสดคลาสสิก), Twig (สีชมพูอมน้ำตาล)
• ส่วนประกอบสำคัญ
  • Castor Seed Oil (น้ำมันละหุ่ง) เป็นเบสที่ให้ความชุ่มชื้นและเนื้อสัมผัสที่นุ่มลื่น
  • Beeswax (ขี้ผึ้ง) ช่วยสร้างชั้นเคลือบบางๆ บนริมฝีปากและช่วยให้ลิปติดทน
  • Silica ช่วยให้เม็ดสีกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอและให้ฟินิชที่เรียบเนียน
• บทสรุป เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ต้องการลิปที่ติดทนและเม็ดสีชัดแบบเนื้อแมตต์ แต่ก็ยังต้องการความสบายและความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับทุกโอกาส

อันดับที่ 7 MAC Powder Kiss Lipstick

ลิปสติกรุ่นยอดนิยมที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยเนื้อแมตต์แบบฟุ้งๆ เบลอๆ ให้ความรู้สึกเหมือนแป้งที่เคลือบริมฝีปากไว้บางเบา สบายปากเหมือนไม่ได้ทา

• คุณสมบัติเด่น
  • เนื้อสัมผัส เนื้อแมตต์แบบแป้ง (Powdery Matte) บางเบาและนุ่มลื่นเป็นพิเศษ
  • เม็ดสี เม็ดสีอยู่ในระดับปานกลางถึงสูง สามารถทาทับเพื่อเพิ่มความเข้มได้ ให้ลุคที่ดูนุ่มนวล
  • ความติดทน ติดทนปานกลาง (ประมาณ 4-5 ชั่วโมง) แต่ให้ความรู้สึกสบายปากมาก
  • ฟินิชลุค แมตต์เบลอ (Blurred, Soft-focus Matte) ให้ขอบปากที่ดูฟุ้งๆ เป็นธรรมชาติ
  • เฉดสีแนะนำ Mull It Over (สีนู้ดพีชอมชมพู), Devoted To Chili (สีแดงอิฐ), A Little Tamed (สีชมพูกุหลาบ)
• ส่วนประกอบสำคัญ
  • Dimethicone Crosspolymer ซิลิโคนโพลีเมอร์ที่สร้างเนื้อสัมผัสแบบแป้ง นุ่มลื่น และช่วยเบลอริ้วรอย
  • Moisture-Coated Powder Pigments เทคโนโลยีเม็ดสีเคลือบสารให้ความชุ่มชื้น ทำให้ได้ลุคแมตต์ที่ไม่ทำให้ปากแห้ง
• บทสรุป เหมาะสำหรับคนที่ชอบลุคแต่งหน้าแบบ Effortless Beauty หรือลุคใสๆ สไตล์เกาหลี ให้ฟินิชปากเบลอที่สวยงามและสบายปากที่สุด เป็นลิปแมตต์สำหรับคนที่ไม่ชอบความรู้สึกหนักปาก

อันดับที่ 8 MAC Love Me Lipstick

ลิปสติกเนื้อซาตินน้ำหนักเบา ผสมด้วยออยล์บำรุงจากธรรมชาติ ทำให้ได้เนื้อที่นุ่มลื่นและชุ่มชื้นเป็นพิเศษ แต่ยังให้เม็ดสีที่สดชัด

• คุณสมบัติเด่น
  • เนื้อสัมผัส เนื้อครีมมี่บางเบาคล้ายเจล (Lightweight Creamy Gel) ทาง่ายและให้ความรู้สึกดีเยี่ยม
  • เม็ดสี สดชัดและสม่ำเสมอ ให้สีสันที่สดใส
  • ความติดทน ติดทนปานกลาง (ประมาณ 4-5 ชั่วโมง)
  • ฟินิชลุค ซาตินนุ่มนวล มีความฉ่ำเล็กน้อย
  • เฉดสีแนะนำ Bated Breath (สีน้ำตาลกุหลาบเข้ม), E For Effortless (สีแดงเบอร์กันดี)
• ส่วนประกอบสำคัญ
  • Argan Oil น้ำมันอาร์แกนช่วยบำรุงริมฝีปากอย่างล้ำลึก ให้ความชุ่มชื้นและเนียนนุ่ม
  • Lychee Fruit Extract สารสกัดจากลิ้นจี่ ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น
  • True-Colour Gelled System เทคโนโลยีที่ช่วยให้เม็ดสีกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอและให้สีที่สดชัด
• บทสรุป เหมาะสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับการบำรุงริมฝีปาก ต้องการลิปสติกที่มอบทั้งสีสันที่สวยงามและความชุ่มชื้นยาวนานในแท่งเดียว

อันดับที่ 9 MAC Lustreglass Sheer-Shine Lipstick

ลิปสติกรุ่นปรับปรุงใหม่ที่ให้ความชุ่มชื้นและความแวววาวเหมือนลิปบาล์ม แต่มาพร้อมเม็ดสีที่โปร่งแสงแต่ยังคงชัดเจน สามารถทาทับเพื่อเพิ่มระดับความเข้มของสีได้

• คุณสมบัติเด่น
  • เนื้อสัมผัส เนื้อลื่นคล้ายบาล์ม (Balm-like texture) บางเบาและชุ่มชื้นมาก
  • เม็ดสี โปร่งแสงถึงปานกลาง (Sheer to Medium) สามารถสร้างเลเยอร์สีได้
  • ความติดทน ติดทนปานกลางสำหรับลิปเนื้อเชียร์ (ประมาณ 3-4 ชั่วโมง) แต่ยังทิ้งสีระเรื่อ (stain) ไว้บนปาก
  • ฟินิชลุค ฉ่ำวาว (Lustrous, Glossy Finish) ทำให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบและสุขภาพดี
  • เฉดสีแนะนำ See Sheer (สีชมพูอมส้ม), Syrup (สีชมพูอมม่วงใสๆ), Thanks, It’s M·A·C! (สีนู้ดชมพูระเรื่อ)
• ส่วนประกอบสำคัญ
  • Hyaluronic Acid ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากอิ่มฟู
  • Jojoba, Raspberry Seed, Coconut Oil น้ำมันสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้น
  • Shea Butter & Olive Oil ช่วยให้ริมฝีปากเนียนนุ่มและลดความแห้งกร้าน
• บทสรุป เหมาะสำหรับคนที่ชอบลุคธรรมชาติ ริมฝีปากดูแวววาวสุขภาพดี หรือมีปัญหาริมฝีปากแห้งง่าย เป็นลิปสติกที่ใช้ง่าย สามารถทาได้ทุกวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องปากแห้ง

อันดับที่ 10 MAC Cremesheen Lipstick

ลิปสติกเนื้อครีมที่ให้ความเงางามแบบพอดีๆ เป็นอีกหนึ่งรุ่นคลาสสิกที่ได้รับความนิยมเสมอมา ด้วยเนื้อที่ทาง่ายและให้ความรู้สึกสบายปาก

• คุณสมบัติเด่น
  • เนื้อสัมผัส เนื้อครีมเนียนนุ่ม ให้ความชุ่มชื้นทันทีที่ทา
  • เม็ดสี เม็ดสีระดับปานกลาง ให้สีที่ชัดเจนแต่ยังคงความละมุน
  • ความติดทน ติดทนปานกลาง (ประมาณ 3-4 ชั่วโมง)
  • ฟินิชลุค กึ่งเงา (Semi-glossy finish) ให้ประกายเบาๆ
  • เฉดสีแนะนำ Crème in Your Coffee (สีนู้ดน้ำตาลกลางๆ), Brave Red (สีแดงอมเหลืองสดใส)
• ส่วนประกอบสำคัญ
  • Emollients (สารให้ความนุ่มลื่น) ส่วนผสมหลักที่ช่วยให้เนื้อลิปครีมมี่และให้ความชุ่มชื้น
  • Pigment Dispersants สารที่ช่วยให้เม็ดสีกระจายตัวอย่างทั่วถึง ทำให้สีลิปสม่ำเสมอ
  • Silica ช่วยให้ฟินิชดูเรียบเนียน ไม่ตกร่อง
• บทสรุป เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลิปสติกที่ใช้ได้ทุกวัน ให้สีสันที่สวยงามพร้อมความชุ่มชื้น เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้ลิปสติก MAC