วิตามินบี 6 หรือ ไพริดอกซิน (Pyridoxine) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำและเป็นหนึ่งในกลุ่มวิตามินบีรวมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญโปรตีนและไขมัน, การสร้างเม็ดเลือดแดง, การทำงานของระบบประสาทและสมอง, รวมถึงการรักษาสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย การเลือกรับประทานวิตามินบี 6 เสริมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ในทุกๆ ด้าน
ประโยชน์รอบด้านของวิตามินบี 6
ก่อนจะไปดูยี่ห้อที่แนะนำ เรามาทำความเข้าใจถึงประโยชน์อันหลากหลายของวิตามินบี 6 กันก่อน เพื่อให้เห็นภาพความสำคัญของวิตามินชนิดนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- ด้านระบบประสาทและสมอง
- ช่วยในการสร้างสารสื่อประสาท วิตามินบี 6 เป็นโคแฟกเตอร์ (Co-factor) ที่จำเป็นในกระบวนการสร้างสารสื่อประสาทที่สำคัญหลายชนิด เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) ที่ช่วยควบคุมอารมณ์และการนอนหลับ, โดปามีน (Dopamine) ที่เกี่ยวข้องกับความสุขและสมาธิ, และกาบา (GABA) ที่ช่วยลดความวิตกกังวลและทำให้รู้สึกสงบ
- ลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้า การมีระดับเซโรโทนินที่สมดุลช่วยลดความเสี่ยงและบรรเทาอาการของโรคซึมเศร้าได้
- ส่งเสริมการทำงานของสมอง มีส่วนช่วยในการทำงานของสมองในด้านความจำ การเรียนรู้ และอาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ เช่น โรคอัลไซเมอร์ โดยการควบคุมระดับโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) ในเลือด ซึ่งหากมีปริมาณสูงเกินไปจะส่งผลเสียต่อเซลล์ประสาท
- ด้านระบบเลือดและหัวใจ
- จำเป็นต่อการสร้างฮีโมโกลบิน วิตามินบี 6 มีบทบาทสำคัญในการสร้างฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนในเม็ดเลือดแดงที่ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย การขาดวิตามินบี 6 อาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงมีขนาดเล็ก (Microcytic Anemia) ได้
- ลดระดับโฮโมซิสเตอีน ดังที่กล่าวไปข้างต้น วิตามินบี 6 ร่วมกับวิตามินบี 12 และกรดโฟลิก (วิตามินบี 9) ช่วยควบคุมระดับกรดอะมิโนโฮโมซิสเตอีนในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ ซึ่งระดับโฮโมซิสเตอีนที่สูงเกินไปเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ด้านสุขภาพของผู้หญิง
- บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) วิตามินบี 6 ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือนได้ เช่น อารมณ์แปรปรวน, หงุดหงิดง่าย, ซึมเศร้า, อาการบวมน้ำ และอาการเจ็บคัดตึงเต้านม เนื่องจากมีผลต่อการสร้างสารสื่อประสาทและสมดุลของฮอร์โมน
- ลดอาการคลื่นไส้แพ้ท้อง สำหรับหญิงตั้งครรภ์ วิตามินบี 6 สามารถช่วยลดอาการคลื่นไส้และอาเจียนในตอนเช้า (Morning Sickness) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ด้านระบบภูมิคุ้มกัน
- ส่งเสริมการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว วิตามินบี 6 มีส่วนสำคัญในกระบวนการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ (Lymphocytes) และอินเตอร์ลิวคิน (Interleukins) ซึ่งเป็นเซลล์หลักในระบบภูมิคุ้มกันที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม
- ด้านสุขภาพผิว
- รักษาสมดุลของผิว มีส่วนช่วยในการรักษาสุขภาพผิวให้แข็งแรง อาจช่วยลดการอักเสบของผิวหนังและลดความมันบนใบหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้
- ด้านอื่นๆ
- บรรเทาอาการโรคเส้นประสาทบริเวณข้อมือ (Carpal Tunnel Syndrome) มีงานวิจัยบางชิ้นชี้ว่าการรับประทานวิตามินบี 6 อาจช่วยลดอาการปวดและชาจากภาวะนี้ได้
- ป้องกันการเกิดนิ่วในไต วิตามินบี 6 อาจช่วยลดการเกิดนิ่วในไตชนิดแคลเซียมออกซาเลตได้
การเลือกทานวิตามินบี 6
การเลือกซื้อวิตามินบี 6 ไม่ใช่แค่การเลือกยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง แต่คือการทำความเข้าใจความต้องการของร่างกายและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุด นี่คือหลักการที่คุณควรพิจารณา
ใครบ้างที่ควรพิจารณาเสริมวิตามินบี 6?
คุณอาจได้รับประโยชน์จากการเสริมวิตามินบี 6 หากคุณอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งต่อไปนี้:
- ผู้หญิงที่มีอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) เป็นกลุ่มที่นิยมทานวิตามินบี 6 มากที่สุด เพื่อช่วยลดอาการทางอารมณ์ เช่น หงุดหงิด ซึมเศร้า และอาการทางกายภาพ เช่น อาการบวมน้ำ คัดตึงเต้านม
- หญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้อง วิตามินบี 6 เป็นทางเลือกแรกๆ ที่แพทย์มักแนะนำเพื่อช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน (ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์)
- ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวล เนื่องจากวิตามินบี 6 ช่วยในการสร้างเซโรโทนินและโดปามีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ควบคุมอารมณ์
- ผู้สูงอายุ เพื่อช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง ลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อม และควบคุมระดับโฮโมซิสเตอีน
- ผู้ที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด เพื่อช่วยควบคุมระดับโฮโมซิสเตอีนในเลือด
- ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางบางชนิด เฉพาะภาวะโลหิตจางที่เกี่ยวข้องกับการขาดวิตามินบี 6
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ แอลกอฮอล์ส่งผลให้การดูดซึมและเก็บสะสมวิตามินบี 6 ในร่างกายลดลง
- ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด เช่น ยารักษาวัณโรค (Isoniazid) หรือยาคุมกำเนิดบางชนิด อาจทำให้ร่างกายต้องการวิตามินบี 6 มากขึ้น
ปริมาณ (Dosage) ที่เหมาะสม
ปริมาณที่ควรได้รับขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์อย่างมาก:
- เพื่อสุขภาพโดยรวม (ตามค่า RDA – Recommended Dietary Allowance)
- ผู้ใหญ่ทั่วไป ประมาณ 1.3 – 1.7 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งมักจะได้รับเพียงพอจากอาหาร หรือจากวิตามินบีรวม (B-Complex) ทั่วไป
- เพื่อบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)
- ปริมาณที่ใช้ในการศึกษาและแนะนำโดยทั่วไปคือ 50 – 100 มิลลิกรัม/วัน ควรเริ่มทานก่อนช่วงที่จะมีอาการประมาณ 7-10 วัน
- เพื่อลดอาการแพ้ท้อง
- ปริมาณที่แนะนำคือ 10 – 25 มิลลิกรัม วันละ 3-4 ครั้ง (รวมไม่เกิน 100 มก./วัน)
- เพื่อบำรุงระบบประสาทหรือลดระดับโฮโมซิสเตอีน
- อาจต้องใช้ในปริมาณ 50 – 100 มิลลิกรัม/วัน หรือสูงกว่านั้นตามคำแนะนำของแพทย์
คำเตือนที่สำคัญ ไม่ควรรับประทานวิตามินบี 6 ในปริมาณสูง (เกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน) ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะเส้นประสาทส่วนปลายเสียหาย (Peripheral Neuropathy) ซึ่งทำให้มีอาการชาหรือเจ็บแปลบตามมือและเท้าได้
รูปแบบของวิตามินบี 6: Pyridoxine HCl vs P-5-P
วิตามินบี 6 ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมี 2 รูปแบบหลัก
- ไพริดอกซิน ไฮโดรคลอไรด์ (Pyridoxine Hydrochloride)
- เป็นรูปแบบที่พบได้ บ่อยที่สุด เสถียร และราคาไม่แพง
- ร่างกายจะต้องนำไปเปลี่ยนที่ตับให้กลายเป็นรูปแบบที่พร้อมใช้งาน (Active Form) ก่อน
- เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่สุขภาพแข็งแรงดี
- ไพริดอกซาล-5-ฟอสเฟต (Pyridoxal-5′-Phosphate หรือ P-5-P)
- เป็น รูปแบบพร้อมใช้งาน (Active Form) ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการเปลี่ยนรูปที่ตับ
- เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ, ผู้สูงอายุที่กระบวนการเผาผลาญในร่างกายลดลง, หรือผู้ที่ร่างกายอาจมีปัญหาในการเปลี่ยน Pyridoxine HCl ไปเป็น P-5-P
เลือกแบบ “วิตามินบี 6 เดี่ยว” หรือ “วิตามินบีรวม (B-Complex)”?
- เลือก “วิตามินบี 6 เดี่ยว”
- เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนและต้องการใช้ในปริมาณที่สูงกว่าปกติ เช่น เพื่อรักษาอาการ PMS หรืออาการแพ้ท้องโดยเฉพาะ
- ตัวอย่าง Blackmores Vitamin B6, Solgar Vitamin B6
- เลือก “วิตามินบีรวม (B-Complex)”
- เมื่อคุณต้องการดูแลสุขภาพโดยรวม, บำรุงระบบประสาท, ลดความเหนื่อยล้าและความเครียด
- ข้อดี วิตามินบีแต่ละชนิดทำงานส่งเสริมกัน การทานรวมกันจึงมักให้ผลดีกว่าในแง่ของการบำรุงร่างกายแบบองค์รวม
- ตัวอย่าง DHC B-MIX, Vistra B-Complex, Mega We Care Nat B
วิธีและช่วงเวลาที่ควรรับประทาน
- รับประทานพร้อมหรือหลังอาหารทันที วิตามินบีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ แต่การทานพร้อมอาหารจะช่วยลดโอกาสการระคายเคืองกระเพาะอาหารที่อาจเกิดขึ้นได้ และช่วยให้การดูดซึมดีขึ้น
- ช่วงเวลาที่แนะนำ ควรรับประทานใน มื้อเช้าหรือมื้อกลางวัน เนื่องจากวิตามินบีมีบทบาทในการเผาผลาญและสร้างพลังงาน การทานตอนเช้าจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น การทานตอนกลางคืนอาจรบกวนการนอนในผู้ที่ไวต่อการกระตุ้นได้
- ความสม่ำเสมอ ควรทานในเวลาเดิมของทุกวันเพื่อให้ระดับวิตามินในร่างกายคงที่
ข้อควรระวังและยาที่อาจทำปฏิกิริยาต่อกัน
ก่อนตัดสินใจทานวิตามินบี 6 ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ โดยเฉพาะหากคุณ
- มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคตับ หรือโรคไต
- กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร แม้จะช่วยเรื่องแพ้ท้อง แต่ต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์
- กำลังรับประทานยาเหล่านี้
- ยาเลโวโดปา (Levodopa) สำหรับผู้ป่วยพาร์กินสัน วิตามินบี 6 อาจลดประสิทธิภาพของยาได้
- ยากันชักบางชนิด เช่น ฟีโนบาร์บิทัล (Phenobarbital) และ เฟนิโทอิน (Phenytoin)
- ยาปฏิชีวนะไซโคลเซอรีน (Cycloserine) สำหรับรักษาวัณโรค
10 วิตามินบี 6 ยี่ห้อแนะนำ พร้อมรายละเอียด
หมายเหตุ การเลือกซื้อวิตามินควรพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์, ปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล, และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาอื่นๆ อยู่
- Blackmores Vitamin B6
- จุดเด่น เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำจากประเทศออสเตรเลียที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน มีมาตรฐานการผลิตที่น่าเชื่อถือ
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์
- รูปแบบ ไพริดอกซิน ไฮโดรคลอไรด์ (Pyridoxine Hydrochloride)
- ปริมาณ โดยทั่วไปมีขนาด 100 มิลลิกรัมต่อเม็ด
- เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) โดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นปริมาณที่มักใช้ในการศึกษาและเห็นผลในด้านนี้ หรือผู้ที่ต้องการเสริมวิตามินบี 6 ในปริมาณสูงตามคำแนะนำของแพทย์
- DHC Vitamin B-MIX
- จุดเด่น แบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น เน้นการผลิตวิตามินและอาหารเสริมในราคาที่เข้าถึงง่าย มาในรูปแบบวิตามินบีรวม ซึ่งให้ประโยชน์ที่ส่งเสริมกัน
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์
- รูปแบบ เป็นวิตามินบีรวม (B-Complex) ที่มีวิตามินบี 6 เป็นส่วนประกอบหลัก ร่วมกับวิตามินบีชนิดอื่นๆ เช่น B1, B2, B12, ไนอะซิน, กรดแพนโทธินิค, ไบโอติน และกรดโฟลิก
- ปริมาณ B6 ประมาณ 30-40 มิลลิกรัมต่อวัน (ขึ้นอยู่กับสูตร)
- เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพโดยรวม, บำรุงระบบประสาท, ลดความอ่อนเพลีย และต้องการประโยชน์จากวิตามินบีทุกชนิดทำงานร่วมกัน
- Vistra B-Complex Plus Minerals
- จุดเด่น แบรนด์ไทยที่ได้รับความนิยมสูง มีการพัฒนาสูตรที่หลากหลายและครอบคลุม สูตรนี้โดดเด่นที่มีการเพิ่มแร่ธาตุเข้ามาด้วย
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์
- รูปแบบ วิตามินบีรวม ผสมแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น ซิงค์ (สังกะสี), แมกนีเซียม
- ปริมาณ B6 มีวิตามินบี 6 ในปริมาณที่สมดุลกับวิตามินบีชนิดอื่น
- เหมาะสำหรับ ผู้ที่ทำงานหนัก, มีความเครียดสูง, อ่อนเพลีย, หรือผู้ที่ต้องการบำรุงทั้งระบบประสาทและเสริมสร้างการทำงานของร่างกายด้วยแร่ธาตุ
- Nature’s Bounty B-Complex with B-12
- จุดเด่น แบรนด์จากสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและมาตรฐานการผลิตที่เข้มงวด
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์
- รูปแบบ วิตามินบีรวมที่เน้นวิตามินบี 12 และวิตามินบี 6 เพื่อการบำรุงระบบประสาทและสมองโดยเฉพาะ
- ปริมาณ B6 มักจะอยู่ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน ทำงานร่วมกับ B12 เพื่อควบคุมระดับโฮโมซิสเตอีน
- เหมาะสำหรับ ผู้สูงอายุ, ผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ (ซึ่งอาจขาด B12) และผู้ที่ต้องการเน้นการบำรุงสมองและความจำ
- Mega We Care Nat B
- จุดเด่น เป็นวิตามินบีรวมสูตรเข้มข้นที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายจากความอ่อนล้าและความเครียดโดยเฉพาะ
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์
- รูปแบบ วิตามินบีรวมที่มีปริมาณวิตามินบีแต่ละชนิดค่อนข้างสูง
- ปริมาณ B6 มีปริมาณวิตามินบี 6 ที่สูงเพียงพอต่อการบำรุงระบบประสาทอย่างมีประสิทธิภาพ
- เหมาะสำหรับ ผู้ที่พักผ่อนน้อย, ทำงานหนัก, นักเรียนนักศึกษาช่วงสอบ หรือผู้ที่มีภาวะเครียดสะสม
- Solgar Vitamin B6
- จุดเด่น แบรนด์พรีเมียมจากสหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงด้านการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง และมีผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่แพ้อาหารหรือทานมังสวิรัติ (Vegan-friendly)
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์
- รูปแบบ มีทั้งรูปแบบ ไพริดอกซิน ไฮโดรคลอไรด์ และรูปแบบที่ออกฤทธิ์ได้ทันทีคือ Pyridoxal-5′-Phosphate (P-5-P) ซึ่งร่างกายสามารถนำไปใช้ได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการเปลี่ยนรูป
- ปริมาณ มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ 25 มก., 50 มก., ไปจนถึง 100 มก.
- เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการวิตามินบี 6 คุณภาพสูง หรือผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมที่อาจต้องการรูปแบบ P-5-P
- องค์การเภสัชกรรม (GPO) Vitamin B1-6-12
- จุดเด่น ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมของไทย มีความน่าเชื่อถือสูง หาซื้อง่ายตามร้านขายยาทั่วไป และราคาไม่แพง
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์
- รูปแบบ เป็นการรวมวิตามินบี 3 ชนิดที่สำคัญต่อระบบประสาท คือ B1, B6, และ B12
- ปริมาณ B6 มีวิตามินบี 6 ในปริมาณที่ใช้เพื่อการรักษาและบำรุงระบบประสาทโดยเฉพาะ
- เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า, ปลายประสาทอักเสบ หรือผู้ที่ต้องการบำรุงประสาทเป็นพิเศษตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
- Life Extension B-Complex
- จุดเด่น แบรนด์ที่เน้นการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ล้ำหน้าและมีประสิทธิภาพสูง
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์
- รูปแบบ มักใช้รูปแบบ Bioactive B-Vitamins หรือวิตามินบีในรูปแบบที่ร่างกายพร้อมใช้งาน เช่น ใช้ Pyridoxal-5′-Phosphate (P-5-P) แทน Pyridoxine HCl
- ปริมาณ B6 มีในปริมาณที่สมดุลและมีประสิทธิภาพสูงในสูตรวิตามินบีรวม
- เหมาะสำหรับ ผู้ที่ใส่ใจในสุขภาพอย่างลึกซึ้ง และต้องการผลิตภัณฑ์ที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐานและมีรูปแบบวิตามินที่ดูดซึมได้ดีที่สุด
- Now Foods B-50 Complex
- จุดเด่น แบรนด์จากสหรัฐอเมริกาที่เน้นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และมีราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพ
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์
- รูปแบบ B-Complex ที่มีวิตามินบีแต่ละชนิดในปริมาณ 50 มิลลิกรัมหรือ 50 ไมโครกรัม (ยกเว้นบางตัว) ทำให้เป็นสูตรที่สมดุลและครอบคลุม
- ปริมาณ B6 50 มิลลิกรัม
- เหมาะสำหรับ เป็นวิตามินบีรวมพื้นฐานที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมวิตามินบีเพื่อการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันในปริมาณที่พอเหมาะ
- Puritan’s Pride Vitamin B-6
- จุดเด่น อีกหนึ่งแบรนด์ยอดนิยมจากสหรัฐอเมริกา มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและราคาไม่สูง เข้าถึงง่าย
- รายละเอียดผลิตภัณฑ์
- รูปแบบ ไพริดอกซิน ไฮโดรคลอไรด์
- ปริมาณ มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ 50 มก. ถึง 100 มก.
- เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการเสริมวิตามินบี 6 เดี่ยวๆ เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น บรรเทาอาการ PMS หรือตามคำแนะนำของแพทย์ ในราคาที่ย่อมเยา
- ตัวอย่าง Puritan’s Pride Vitamin B-6 100 mg
การเลือกวิตามินบี 6 ที่ “ดีที่สุด” ขึ้นอยู่กับเป้าหมายสุขภาพของแต่ละบุคคล งบประมาณ และความเชื่อมั่นในแบรนด์ ควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจประโยชน์ที่ต้องการ และพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณและรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเองที่สุด