10 ไฟเบอร์ยี่ห้อไหนดี Fiber ช่วยขับถ่าย ดีท็อกซ์

ใยอาหารหรือไฟเบอร์ (Fiber) เป็นส่วนประกอบของพืชที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายหรือดูดซึมได้ แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบทางเดินอาหารและสุขภาพโดยรวม แม้ว่าเราจะได้รับไฟเบอร์จากการรับประทานผักและผลไม้เป็นหลัก แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ทำให้หลายคนได้รับไฟเบอร์ไม่เพียงพอ อาหารเสริมไฟเบอร์จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยม

อาหารเสริม Fiber ช่วยอะไร

อาหารเสริมไฟเบอร์มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพในหลากหลายมิติ ดังนี้

  • การปรับสมดุลระบบขับถ่ายและป้องกันท้องผูก
    • เพิ่มมวลอุจจาระ ไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ (Insoluble Fiber) จะดูดซับน้ำไว้ในลำไส้ ทำให้อุจจาระมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ให้ทำงานเป็นปกติ
    • ทำให้อุจจาระนุ่ม ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ (Soluble Fiber) จะสร้างเจลเมื่อผสมกับของเหลวในลำไส้ ทำให้มวลอุจจาระนุ่มขึ้น สามารถเคลื่อนตัวผ่านลำไส้ได้ง่าย ลดปัญหาการขับถ่ายที่ต้องใช้แรงเบ่งมากเกินไป
    • ลดความเสี่ยงโรคริดสีดวงทวาร การขับถ่ายที่ง่ายและสม่ำเสมอช่วยลดแรงดันในหลอดเลือดบริเวณทวารหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคริดสีดวงทวาร
  • การดีท็อกซ์และทำความสะอาดลำไส้
    • กวาดล้างสิ่งตกค้าง ไฟเบอร์ทำหน้าที่เปรียบเสมือน “ไม้กวาด” ที่ช่วยปัดกวาดเศษอาหารเก่าและสิ่งสกปรกที่อาจเกาะติดอยู่ตามผนังลำไส้ให้ถูกขับออกมาพร้อมกับอุจจาระ
    • ลดการสะสมของเสีย การขับถ่ายที่เป็นปกติช่วยลดระยะเวลาที่ของเสียและสารพิษสัมผัสกับผนังลำไส้ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเกี่ยวกับลำไส้ในระยะยาว
  • การส่งเสริมสุขภาพของจุลินทรีย์ในลำไส้ (Microbiome)
    • เป็นอาหารของจุลินทรีย์ดี (Prebiotics) ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ เช่น ฟรุกโตโอลิโกแซ็กคาไรด์ (FOS) และอินูลิน (Inulin) เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของจุลินทรีย์สุขภาพ (Probiotics) เช่น แลคโตบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรีย
    • ปรับสมดุลลำไส้ เมื่อจุลินทรีย์ดีมีจำนวนเพิ่มขึ้น จะช่วยสร้างสมดุลในระบบนิเวศของลำไส้ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค และส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยรวม
  • การควบคุมน้ำหนักและความอยากอาหาร
    • ช่วยให้อิ่มนานขึ้น ไฟเบอร์, โดยเฉพาะชนิดละลายน้ำ, จะพองตัวในกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ลดความอยากอาหารและการรับประทานจุบจิบระหว่างมื้อ
    • ชะลอการดูดซึมอาหาร การมีไฟเบอร์ในมื้ออาหารจะช่วยชะลอการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร ทำให้ระดับพลังงานคงที่และไม่รู้สึกหิวบ่อย
  • การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
    • ชะลอการดูดซึมน้ำตาล ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำจะสร้างเจลขัดขวางการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อยๆ สูงขึ้นอย่างช้าๆ หลังมื้ออาหาร
    • ลดความเสี่ยงเบาหวาน การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและจัดการโรคเบาหวานชนิดที่ 2
  • การควบคุมระดับคอเลสเตอรอล
    • ดักจับไขมันและน้ำดี ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำสามารถจับกับกรดน้ำดี (ซึ่งสร้างจากคอเลสเตอรอล) และคอเลสเตอรอลจากอาหารในลำไส้
    • ขับคอเลสเตอรอลออกจากร่างกาย คอเลสเตอรอลและกรดน้ำดีที่ถูกจับไว้จะถูกขับออกจากร่างกายผ่านทางอุจจาระ ส่งผลให้ร่างกายต้องดึงคอเลสเตอรอลในเลือดมาสร้างกรดน้ำดีทดแทน ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลรวมและ LDL (ไขมันไม่ดี) ลดลง

วิธีการเลือกอาหารเสริม Fiber

การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตัวเองเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและปลอดภัย ควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

1. ชนิดของไฟเบอร์ (Type of Fiber)

  • ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำ (Soluble Fiber) เช่น ไซเลียมฮัสก์ (Psyllium Husk), อินูลิน (Inulin), ฟรุกโตโอลิโกแซ็กคาไรด์ (FOS), เบต้ากลูแคน (Beta-glucan)
    • เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอล, ต้องการให้อิ่มนาน, หรือต้องการปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ (พรีไบโอติก)
  • ไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ (Insoluble Fiber) เช่น เซลลูโลส (Cellulose) ที่พบในรำข้าวสาลี, ธัญพืชไม่ขัดสี
    • เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาท้องผูกเป็นหลัก ต้องการเพิ่มมวลอุจจาระและกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้
  • ผลิตภัณฑ์แบบผสม อาหารเสริมส่วนใหญ่มักผสมไฟเบอร์ทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้คุณประโยชน์ที่ครอบคลุมทั้งการเพิ่มกากใยและปรับสมดุลลำไส้

2. ตรวจสอบส่วนประกอบอื่นๆ (Other Ingredients)

  • น้ำตาลและสารให้ความหวาน ควรอ่านฉลากอย่างละเอียด หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีการเติมน้ำตาลในปริมาณสูง หากต้องการรสชาติหวาน ให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติ เช่น หญ้าหวาน (Stevia)
  • สารสกัดเพิ่มเติม หลายยี่ห้อมีการเพิ่มสารสกัดจากผักผลไม้, วิตามิน, คลอโรฟิลล์, หรือโพรไบโอติก (Probiotics) เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์ด้านอื่นๆ เช่น การต้านอนุมูลอิสระ, บำรุงผิว หรือการเสริมภูมิคุ้มกัน ควรเลือกให้ตรงกับความต้องการของร่างกาย
  • สารปรุงแต่ง ตรวจสอบว่ามีสารแต่งสี แต่งกลิ่น หรือวัตถุกันเสียหรือไม่ หากคุณเป็นคนแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติและมีการปรุงแต่งน้อยที่สุด

3. รูปแบบของผลิตภัณฑ์ (Form of Supplement)

  • แบบผงชงดื่ม เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สามารถละลายน้ำได้ง่ายและร่างกายดูดซึมไปใช้ได้เร็ว ปรับปริมาณการทานได้ง่าย
  • แบบแคปซูล/อัดเม็ด เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบรสชาติของไฟเบอร์แบบผง หรือต้องการความสะดวกในการพกพา แต่อาจต้องทานหลายเม็ดเพื่อให้ได้ปริมาณไฟเบอร์ที่เพียงพอ
  • แบบเจลลี่/กัมมี่ เป็นทางเลือกที่ทานง่ายและมีรสชาติอร่อย แต่ควรระวังปริมาณน้ำตาลที่อาจสูงกว่ารูปแบบอื่น และมักมีปริมาณไฟเบอร์ต่อหน่วยบริโภคน้อยกว่า

4. ความน่าเชื่อถือและมาตรฐานการผลิต

  • เครื่องหมาย อย. ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อความปลอดภัย
  • มาตรฐานโรงงาน มองหาผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งเป็นการรับรองกระบวนการผลิตที่สะอาดและมีคุณภาพ
  • ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เลือกซื้อจากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและมีรีวิวจากผู้ใช้จริงในเชิงบวก

5. ข้อควรระวังและคำแนะนำเพิ่มเติม

  • เริ่มต้นจากปริมาณน้อย สำหรับผู้ที่ไม่เคยทานอาหารเสริมไฟเบอร์มาก่อน ควรเริ่มต้นจากปริมาณครึ่งหนึ่งของที่แนะนำบนฉลาก แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้น เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวและลดอาการท้องอืดหรือแก๊สในกระเพาะอาหาร
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น (อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน) เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อทานไฟเบอร์เสริม เพื่อช่วยให้ไฟเบอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันภาวะลำไส้อุดตัน
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากคุณมีโรคประจำตัว (เช่น โรคลำไส้อุดตัน, ลำไส้อักเสบ) กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มรับประทานอาหารเสริมทุกชนิด

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทไฟเบอร์ในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไป การเลือกไฟเบอร์ที่เหมาะสมกับตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและการดีท็อกซ์ลำไส้ บทความนี้ได้รวบรวม 10 ไฟเบอร์ที่น่าสนใจและเป็นที่นิยม มาให้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

10 ไฟเบอร์ที่น่าสนใจและเป็นที่นิยม

1. FOS Fiber

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไฟเบอร์ที่เน้นการปรับสมดุลลำไส้เป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูกเรื้อรังหรือลำไส้แปรปรวน

  • ส่วนประกอบหลัก ฟรุกโตโอลิโกแซ็กคาไรด์ (Fructooligosaccharide) ซึ่งเป็นพรีไบโอติก (Prebiotic) หรืออาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้
  • คุณสมบัติเด่น
    • ช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สุขภาพ เช่น แลคโตบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรีย
    • กระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย ทำให้มวลอุจจาระเพิ่มขึ้นและนุ่มขึ้น ขับถ่ายง่ายขึ้น
    • ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และปรับสมดุลการทำงานของลำไส้ในระยะยาว
  • รูปแบบ: ผงชงดื่ม รสชาติหวานเล็กน้อย ทานง่าย

2. P-Peach Fiber

ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ที่ต้องการดูแลรูปร่างและผิวพรรณควบคู่ไปกับการดูแลระบบขับถ่าย

  • ส่วนประกอบหลัก ไซเลียมฮัสก์ (Psyllium Husk), สารสกัดจากผลไม้หลากชนิด เช่น พีช, แอปเปิ้ล, และเบอร์รี่
  • คุณสมบัติเด่น
    • ไซเลียมฮัสก์พองตัวได้ดีในน้ำ ช่วยเพิ่มกากใยในลำไส้และทำความสะอาดผนังลำไส้
    • อุดมด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระจากผลไม้ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส
    • รสชาติพีช หอม อร่อย ดื่มง่าย
  • รูปแบบ ผงชงดื่ม

3. The Charming Garden Jelly Fiber

ไฟเบอร์ในรูปแบบเจลลี่ที่ฉีกซองทานได้เลย สะดวกสบายและมีรสชาติอร่อย

  • ส่วนประกอบหลัก ผงบุก, ไซเลียมฮัสก์, และสารสกัดจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
  • คุณสมบัติเด่น
    • พกพาสะดวก รับประทานง่าย ไม่ต้องชง
    • ช่วยให้อิ่มท้อง ลดความอยากอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก
    • กระตุ้นการขับถ่ายอย่างอ่อนโยน
  • รูปแบบ เจลลี่พร้อมทาน

4. Vida FiberMix

ไฟเบอร์ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติและวิตามินรวม เพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

  • ส่วนประกอบหลัก ใยอาหารจากข้าวสาลี, ไซเลียมฮัสก์, ฟรุกโตโอลิโกแซ็กคาไรด์, สารสกัดจากผักและผลไม้กว่า 14 ชนิด และวิตามินรวม
  • คุณสมบัติเด่น
    • เป็นแหล่งของใยอาหารทั้งชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ
    • มีวิตามินซีสูง ช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระและบำรุงผิว
    • ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่ายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • รูปแบบ ผงชงดื่ม รสมิกซ์เบอร์รี่

5. NUUI Fiberry

ผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ที่อยู่คู่คนไทยมานาน มีชื่อเสียงในด้านการช่วยดีท็อกซ์และล้างสารพิษ

  • ส่วนประกอบหลัก ฟรุกโตโอลิโกแซ็กคาไรด์, ผงไซเลียมฮัสก์, และสารสกัดจากผลไม้หลากหลายชนิด
  • คุณสมบัติเด่น
    • เน้นการดีท็อกซ์ ขับล้างสารพิษที่ตกค้างในลำไส้
    • ช่วยให้การขับถ่ายเป็นเวลามากขึ้น
    • มีใยอาหารสูงถึง 12,000 มิลลิกรัมต่อซอง
  • รูปแบบ ผงชงดื่ม

6. W Fiber Jelly

ไฟเบอร์ดีท็อกซ์อีกหนึ่งยี่ห้อที่โดดเด่นด้วยส่วนผสมจากผักและผลไม้สีเขียว

  • ส่วนประกอบหลัก สารสกัดจากอัลฟัลฟ่า, คลอโรฟิลล์, และสารสกัดจากผักผลไม้นานาชนิด
  • คุณสมบัติเด่น
    • ช่วยขับสารพิษและโลหะหนักออกจากร่างกาย
    • มีคลอโรฟิลล์ช่วยลดกลิ่นตัวและกลิ่นปาก
    • ปรับสมดุลลำไส้และระบบขับถ่าย
  • รูปแบบ ผงชงดื่ม

7. Sye S Chrr

ไฟเบอร์ที่เน้นการทำงานร่วมกันของพรีไบโอติกและโพรไบโอติก เพื่อการปรับสมดุลลำไส้ที่ยั่งยืน

  • ส่วนประกอบหลัก พรีไบโอติก (Prebiotic), โพรไบโอติก (Probiotic) สายพันธุ์ที่มีประโยชน์, และสารสกัดจากธรรมชาติ
  • คุณสมบัติเด่น
    • ช่วยฟื้นฟูสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูกสลับท้องเสีย หรือลำไส้แปรปรวน
    • ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • รูปแบบ ผงชงดื่ม

8. Donutt Total Fibely

ไฟเบอร์ดีท็อกซ์ที่คัดสรรส่วนประกอบจากธรรมชาติ เพื่อการทำความสะอาดลำไส้อย่างหมดจด

  • ส่วนประกอบหลัก ไซเลียมฮัสก์, ต้นอ่อนข้าวสาลี, สารสกัดจากผลไม้และผัก
  • คุณสมบัติเด่น
    • มีส่วนผสมของต้นอ่อนข้าวสาลี ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
    • ช่วยกวาดล้างสิ่งสกปรกที่เกาะตามผนังลำไส้
    • กระตุ้นการขับถ่ายให้เป็นปกติ
  • รูปแบบ ผงชงดื่ม

9. Mega We Care Fibo-Fit

ผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์จากแบรนด์เวชสำอางที่น่าเชื่อถือ เน้นคุณภาพและความปลอดภัย

  • ส่วนประกอบหลัก ใยอาหารพรีไบโอติก 2 ชนิด คือ ฟรุกโตโอลิโกแซ็กคาไรด์ และอินนูลิน (Inulin)
  • คุณสมบัติเด่น
    • เน้นการเป็นพรีไบโอติกคุณภาพสูง ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ดี
    • ช่วยให้อุจจาระนุ่มและเคลื่อนตัวได้ดีขึ้น
    • ปราศจากน้ำตาล เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและผู้ป่วยเบาหวาน
  • รูปแบบ ผงชงดื่ม

10. Amado Fiber

ไฟเบอร์ที่ได้รับความนิยมและหาซื้อง่าย มีรีวิวจากผู้ใช้จริงจำนวนมาก

  • ส่วนประกอบหลัก ไซเลียมฮัสก์, สารสกัดจากผักและผลไม้รวม
  • คุณสมบัติเด่น
    • ช่วยให้ขับถ่ายง่าย ไม่ปวดบิด
    • รสชาติอร่อย ทานง่ายเหมือนน้ำผลไม้
    • ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ ทำให้รู้สึกโล่งสบายท้อง
  • รูปแบบ ผงชงดื่ม

การเลือกไฟเบอร์ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง ควรพิจารณาจากส่วนประกอบหลัก ปัญหาของระบบขับถ่ายที่ต้องการแก้ไข และความสะดวกในการรับประทานของแต่ละบุคคล เพื่อให้การดูแลสุขภาพลำไส้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง